เนื้อหาในบทความ
ประหยัดสูงสุด 25 % เมื่อซื้อบริการกับ Shopify!
ข้อเสนอมีเวลาจำกัด - อย่าพลาด!
881 ผู้ใช้ที่ใช้คูปองนี้
แม่แบบ
Etsy ไม่มีแม่แบบ; Shopify มีดีไซน์หลากหลายให้เลือก
Etsy เป็นตลาดออนไลน์ ไม่ใช่เครื่องมือสร้างเว็บไซต์ ดังนั้นจึงไม่มีแม่แบบให้เลือกใช้งาน แม้ว่าจะทำให้การตั้งร้านค้าของคุณง่ายดายยิ่งขึ้น แต่นั่นก็หมายความว่าคุณจะต้องยอมรับกับรูปแบบและดีไซน์เดิม ๆ ที่มีอยู่ คุณสามารถเพิ่มโลโก้และแบนเนอร์ของคุณเองได้ แต่ร้านค้า Etsy ของคุณก็ยังจะดูคล้าย ๆ กับร้านค้าอื่น ๆ อยู่ดี ทำให้ยากที่จะมีความโดดเด่นจริง ๆ ในทางตรงกันข้าม Shopify จะมีแม่แบบที่พัฒนาโดยนักออกแบบให้เลือกมากกว่า 80 รูปแบบ (ที่เรียกว่า “ธีม”)รวมถึงดีไซน์ฟรี 13 แบบ แต่ละแบบมีความสวยหรูและดูมืออาชีพ นอกจากนี้ ทุกธีมยังรองรับการแสดงผลบนมือถือได้อย่างดีเยี่ยม หมายความว่าหน้าตาของมันจะปรับตัวโดยอัตโนมัติให้เหมาะสมกับการดูบนมือถือ และถ้าธีมภายในของ Shopify ไม่ตรงกับความต้องการของคุณ คุณก็สามารถนำเข้าธีมจากผู้ให้บริการภายนอกได้ อย่างเช่นจาก ThemeForest เมื่อเทียบกับ Etsy แล้วนั้น Shopify ยังมีตัวเลือกในการปรับแต่งที่มากขึ้นอีกด้วย ตัวอย่างเช่น คุณสามารถปรับเปลี่ยนแบบอักษร, สี และเลย์เอาท์เพื่อให้ร้านค้าของคุณมีเอกลักษณ์ทางการมองเห็นที่โดดเด่นและตรงกับแบรนด์ของคุณ หรือถ้าคุณต้องการหน้าตาแบบที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะ คุณก็สามารถแก้ไขโค้ดของธีมเพื่อปรับแต่งได้หลากหลายวิธีตามที่คุณต้องการคำแนะนำมือโปร ถ้าคุณต้องการดีไซน์ที่โดดเด่น แต่คุณไม่เชี่ยวชาญการเขียนโค้ด ไม่ต้องกังวล: คุณสามารถจ้างนักพัฒนามืออาชีพบน Fiverrได้ในราคาที่ถูกจนน่าประหลาดใจ
คุณสมบัติและความง่ายในการใช้งาน
ทั้ง Shopify และ Etsy ใช้งานได้ง่าย แต่ Shopify มีคุณสมบัติที่มากกว่า
การเปิดร้านค้าด้วย Etsy ใช้เวลาเพียงไม่กี่นาทีเท่านั้น เมื่อคุณตั้งค่าบัญชีเสร็จแล้ว คุณจะต้องตอบคำถามพื้นฐานเกี่ยวกับธุรกิจของคุณ และเลือกชื่อร้านค้า จากนั้นคุณก็ต้องอัปโหลดรูปภาพและข้อมูลสินค้า ตั้งค่าตัวเลือกการชำระเงิน และคุณก็พร้อมที่จะเริ่มขายได้เลย ที่สำคัญคือคุณสามารถตั้งภาษาเป็นภาษาไทยได้อีกด้วย ด้วย Shopify คุณจะได้รับอิสระในการควบคุมการออกแบบของร้านค้าได้มากกว่า ดังนั้นการเตรียมการตั้งค่าอาจใช้เวลานานขึ้นเล็กน้อย อย่างไรก็ตาม นี่ไม่ได้หมายความว่าการสร้างร้านค้าจะเป็นเรื่องยาก ตัวแก้ไขแบบลากวางของ Shopify นั้นใช้งานง่ายและสะดวกในการนำทาง ดังนั้นการปรับแต่งแม่แบบของคุณจะเป็นเรื่องง่ายมาก ๆ ถึงแม้ว่าคุณจะเป็นผู้เริ่มต้นก็ตาม คุณสามารถเพิ่มและปรับเปลี่ยนส่วนต่าง ๆ ของแม่แบบเช่นคอลัมน์, รีวิวจากลูกค้า, ฟอร์มลงทะเบียน, สไลด์โชว์ และอื่น ๆ อีกมากมายได้ ไม่ต้องกังวลหากคิดว่านี่ฟังดูเหมือนเรื่องใหญ่เกินไป – Shopify มีคู่มือการตั้งค่าที่เข้าใจง่ายและหลากหลายมาก ๆ เพื่อช่วยคุณในการเริ่มต้น เมื่อพูดถึงคุณสมบัติต่าง ๆ Shopify มีประสิทธิภาพที่เหนือกว่า Etsy ในเกือบทุกด้าน คุณจะได้เครื่องมือเพิ่มเติมในการจัดการร้านค้าและส่งเสริมสินค้าของคุณ คุณสามารถขายสินค้าผ่านช่องทางต่าง ๆ (รวมถึงโซเชียลมีเดีย) และคุณจะมีตัวเลือกการชำระเงินที่มากขึ้น ไม่เหมือนกับ Etsy Shopify นั้นยังทำให้คุณสามารถเพิ่มบล็อกในร้านค้าออนไลน์ของคุณได้ด้วย ซึ่งนี่จะสามารถช่วยให้คุณเผยแพร่ผลิตภัณฑ์ของคุณให้กับลูกค้ากลุ่มเป้าหมายได้มากยิ่งขึ้น ข้อสรุปคือ ในขณะที่ Etsy ทำให้คุณสามารถตั้งค่าร้านค้าออนไลน์ได้เร็วกว่า แต่ Shopify นั้นใช้งานง่ายและมีฟีเจอร์ทางด้านอีคอมเมิร์ซและการตลาดที่ดีกว่า นอกจากนี้คุณยังมีทางเลือกในการปรับแต่งร้านค้าของคุณได้มากขึ้นเพื่อให้แบรนด์และผลิตภัณฑ์ของคุณมีความโดดเด่นอีคอมเมิร์ซ
Etsy มีเครื่องมือที่น่าพอใจ แต่ Shopify มีความสามารถที่มากกว่า
Etsy ไม่อนุญาตให้คุณปรับแต่งหน้าผลิตภัณฑ์ของคุณเองได้ แต่คุณก็ยังสามารถจัดแสดงงานฝีมือของคุณได้ สำหรับแต่ละรายการโดยการเพิ่มรูปภาพสินค้าได้ถึง 10 รูปจากมุมต่าง ๆ เพื่อให้ลูกค้าเห็นรายละเอียดมากขึ้น อย่างไรก็ตาม Shopify ให้คุณเพิ่มได้มากกว่าภาพมาตรฐาน คุณสามารถเพิ่มโมเดล 3D และวิดีโอของสินค้าของคุณเพื่อแสดงในแบบที่ดีที่สุดได้ด้วย การเพิ่มสินค้านั้นง่ายดายทั้งใน Etsy และ Shopify แต่ Shopify มีตัวเลือกให้คุณมากกว่าสำหรับการตั้งค่าลักษณะเฉพาะของสินค้า แค่ไม่กี่นาทีคุณก็สามารถกรอกข้อมูลพื้นฐานของสินค้าเช่น ชื่อ หมวดหมู่ และราคา และคุณก็สามารถตั้งค่าข้อมูลขั้นสูง เช่น ตัวเลือกสินค้าต่าง ๆ ในภายหลังได้ – Shopify จะไม่ทำให้คุณรู้สึกสับสนเพราะตัวเลือกที่มากเกินไปตั้งแต่แรก Etsy จะให้เครื่องมือพื้นฐานสำหรับจัดการคำสั่งซื้อและการสื่อสารกับลูกค้าของคุณ ไม่ว่าจะผ่านบัญชีออนไลน์หรือแอป Etsy แต่ Shopify นั้นจะให้เครื่องมืออีคอมเมิร์ซขั้นสูงมากมาย เป็นต้นว่า Shopify มอบพื้นที่เข้าสู่ระบบของลูกค้าที่สามารถปรับแต่งได้และระบบชำระเงินแบบคลิกเดียว เพื่อให้ลูกค้าของคุณช้อปปิ้งได้อย่างไม่ต้องรู้สึกกังวล และหากคุณมีหน้าร้านด้วยแล้ว ระบบ POS ของ Shopify จะช่วยให้คุณเชื่อมการขายของหน้าร้านและร้านค้าออนไลน์ของคุณเข้ากันได้ด้วย ข้อเสียสำคัญของ Etsy คือมันบังคับให้คุณใช้ระบบการชำระเงินของตนเองคือ Etsy Payments ซึ่งไม่ได้มีให้บริการในทุกที่ ในขณะที่ Shopify เปิดให้คุณเป็นอิสระมากขึ้น โดยอนุญาตให้คุณใช้งานเกตเวย์การชำระเงินได้มากกว่า 100 รูปแบบ เช่น PayPal และ Stripe และถ้าคุณใช้ Shopify Payments คุณจะไม่ถูกเรียกเก็บค่าธรรมเนียมการทำรายการ (ซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้กับ Etsy) โดยรวมแล้ว ในขณะที่ Etsy มีเครื่องมือที่ดีพอสมควร แต่ Shopify นำเสนอฟังก์ชันการทำอีคอมเมิร์ซขั้นสูงกว่า และด้วยความสามารถในการเชื่อมต่อกับผู้ประมวลผลการชำระเงินหลายราย คุณจึงสามารถขายสินค้าได้จากทุกที่SEO
Etsy มีกลยุทธ์ SEO เฉพาะตัว; Shopify มอบเครื่องมือที่หลากหลาย
Etsy มี search engine ของตัวเองที่จัดอันดับรายการสินค้าตามคำค้นหาของลูกค้าและโอกาสที่มันคิดว่าลูกค้าจะซื้อสินค้า คุณอาจพบว่าการลงรายการสินค้าของคุณในระบบปิดของ Etsy จะช่วยทำให้สินค้าของคุณถูกเห็นได้ง่ายขึ้น – อย่างน้อยในช่วงแรก ๆ Shopify ช่วยให้คุณเพิ่มความสามารถในการมองเห็นได้ของร้านค้าของคุณไปทั่วอินเทอร์เน็ต ทำให้คุณสามารถเข้าถึงฐานลูกค้าที่กว้างขึ้น ด้านลบเพียงอย่างเดียวคือคุณจะต้องแข่งขันกับเว็บไซต์จำนวนมาก คุณอาจต้องใช้เวลานานกว่าเล็กหน่อยในการทำให้ร้านค้าของคุณติดอันดับสูงใน Google มากกว่าใน Etsy ทั้ง Etsy และ Shopify อนุญาตให้คุณปรับแต่งชื่อผลิตภัณฑ์ หมวดหมู่ และคำอธิบายของคุณ แต่ Shopify จะสร้าง sitemap ของร้านค้าของคุณโดยอัตโนมัติเพื่อให้ search engine สามารถสแกนเว็บไซต์ของคุณได้ง่าย ไม่เหมือนกับ Etsy เมื่อพูดถึงการวิเคราะห์ เครื่องมือรายงานที่ติดมาในตัวของ Etsy จะให้ข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับวิธีที่ผู้คนค้นหารายการสินค้าของคุณ มันแสดงการดูหน้า แหล่งที่มาของการเข้าชม และคำค้นหาที่นำผู้ซื้อมายังผลิตภัณฑ์ของคุณ ในขณะที่ Shopify Analytics จะบอกเรื่องเหล่านี้เช่นกัน รวมถึงเรื่องอื่น ๆ ที่เพิ่มมากขึ้น ตัวอย่างเช่น มันจะบันทึกคำค้นหาของลูกค้าที่ไม่เจอผลลัพธ์ใด ๆ เพื่อช่วยให้คุณปรับปรุงกลยุทธ์ SEO ของคุณได้ดียิ่งขึ้นเรื่อย ๆ สุดท้ายแล้ว Etsy จะทำให้ง่ายที่ผู้มีศักยภาพจะเป็นลูกค้าจะสามารถเจอผลิตภัณฑ์ของคุณด้วยวิธีการเพียงแค่ค้นหา เมื่อเทียบกับ Shopify คุณอาจต้องใช้เวลาเพิ่มเติมในการตลาดเพื่อขับเคลื่อนการเข้าชมไปยังร้านค้าของคุณ อย่างไรก็ตาม เมื่อธุรกิจของคุณเติบโตและเว็บไซต์ของคุณติดอันดับสูงขึ้นใน search engines Shopify จะช่วยนำยอดขายของคุณไปสู่ระดับที่สูงกว่าในที่สุดการตลาด
Etsy มีฟีเจอร์ทั่วไป; Shopify มอบฟีเจอร์การตลาดทางอีเมลที่โดดเด่น
Etsy มอบเครื่องมือการตลาดที่เรียบง่ายแต่ได้ผลดี คุณสามารถสร้างคูปอง, แชร์ไปยังสื่อโซเชียล และเพิ่มเครื่องมือจากบุคคลที่สามเช่น Google Shopping สำหรับฟีเจอร์ขั้นสูง คุณจะต้องอัปเกรดเป็น Etsy Plus ซึ่งจะทำให้คุณเข้าถึงเครดิตโฆษณา, แม่แบบแบนเนอร์, สามารถส่งการแจ้งเตือนทางอีเมลให้ลูกค้าเมื่อสินค้ามีสต็อกอีกครั้ง และอื่น ๆ อีกมากมาย อย่างไรก็ตาม จะเห็นได้ว่าแม้แต่ฟีเจอร์การตลาดใน Etsy Plus ก็ยังไม่สามารถเทียบได้กับเครื่องมือในตัวของ Shopify ตัวอย่างเช่น Etsy ไม่ได้มีเครื่องมือการตลาดทางอีเมลใด ๆ เลย ในขณะที่ Shopify Email มีครบทุกอย่างที่คุณจำเป็นต้องใช้ทำแคมเปญการตลาดผ่านอีเมลในวงกว้าง ซึ่งรวมไปถึงแม่แบบอีเมลที่ปรับแต่งไว้ล่วงหน้าซึ่งสามารถดึงข้อมูลผลิตภัณฑ์ของคุณ, โลโก้ และสีของร้านค้ามาใช้ได้ คุณยังสามารถ ส่งอีเมลฟรีได้ถึง 2,500 อีเมลต่อเดือน อีกด้วย นอกจากนี้ Shopify ยังช่วยให้คุณสามารถโปรโมตสินค้าที่เข้าค่ายด้วยการจัดแสดงบนแท็บ Shopping ของ Google ได้ฟรี สิ่งที่น่าประทับใจยิ่งกว่านี้คือ คุณยังสามารถขายสินค้าผ่านช่องทางต่าง ๆ ด้วย Shopify ได้ด้วย ซึ่งรวมไปถึง Facebook, Instagram, eBay และอื่น ๆแอปพลิเคชัน
ร้านค้าแอปเพลิเคชันขนาดใหญ่ของ Shopify มีทุกอย่างที่คุณต้องการ
เมื่อพูดถึงการรวมเข้ากับบริการจากบุคคลที่สาม Shopify นับเป็นผู้ชนะอย่างชัดเจน ร้านค้าแอปของพวกเขามีแอปฟรีและแอปที่ต้องจ่ายเงินให้ใช้กว่า 6,000 แอป ไม่ว่าจะเป็นแอปสำหรับดร็อปชิปปิ้ง, ตัวจับเวลานับถอยหลัง, โปรแกรมสะสมแต้ม รวมไปถึงอื่น ๆ อีกมากมาย Etsy จะต่างจาก Shopify ตรงที่มันไม่ได้มีร้านค้าแอปของตนเอง อย่างไรก็ตามคุณสามารถหาแอปมากมายจากตลาดบุคคลที่สามและผู้ให้บริการที่ออกแบบมาเฉพาะสำหรับผู้ขายของ Etsy แต่ Etsy ยังไม่สามารถสู้ Shopify ได้ เมื่อพูดถึงความหลากหลายของแอปที่มีให้เลือกหรือความสะดวกในการเรียกดูและติดตั้งโดยใช้ร้านค้าแอปเดียวราคา
การใช้ Shopify อาจมีราคาสูงกว่า แต่มันให้คุณค่าที่ดีกว่า
แผนมาตรฐานของ Etsy เป็นแบบฟรี คุณสามารถขายผลิตภัณฑ์ได้ไม่จำกัดจำนวน ด้วยการสมัครสมาชิกรายเดือน Etsy Plus จะเปิดใช้งานฟีเจอร์เพิ่มเติม เช่นการปรับแต่งร้านค้า, คำขอเติมสินค้าใหม่, และได้รับการลงรายการสินค้าฟรี 15 ครั้งต่อเดือน ไม่ว่าคุณจะเลือกแผนไหนของ Etsy คุณก็ต้องจ่ายค่าธรรมเนียมสามประเภท: ค่าธรรมเนียมการลงรายการ (ต่อสินค้า), ค่าธรรมเนียมการทำธุรกรรม, และค่าธรรมเนียมการประมวลผลการชำระเงิน Shopify เปิดให้ทดลองใช้ฟรี และมีแผนแบบจ่ายเงินสามแบบ ทุกแผนรองรับผลิตภัณฑ์ไม่จำกัดจำนวน, การกู้คืนรถเข็นที่ถูกทิ้ง, ร้านค้าหลายภาษา และฝ่ายบริการสนับสนุน 24/7 แผนที่ระดับสูงขึ้นจะอนุญาตให้คุณเพิ่มบัญชีพนักงานเข้ามามากขึ้นและจัดสรรสินค้าไปยังสถานที่จำหน่ายมากขึ้น แต่โปรดทราบว่าถ้าคุณไม่ใช้ Shopify Payments คุณก็จะต้องจ่ายค่าธรรมเนียมการทำธุรกรรมและการประมวลผลบัตรเครดิตด้วย สุดท้าย Etsy อาจจะมีราคาถูกกว่าถ้าคุณเพิ่งเริ่มต้นธุรกิจ แต่ชุดคุณสมบัติอันกว้างขวางของ Shopify นั้นจะให้คุณค่าที่ดีกว่าโดยรวม และถึงแม้จะใช้แผนฟรีของ Etsy ค่าธรรมเนียมต่าง ๆ ก็อาจทำให้กำไรของคุณหายไปเยอะเหมือนกัน ถ้าคุณขายผลิตภัณฑ์จำนวนมาก Shopify อาจช่วยให้คุณประหยัดเงินได้มากกว่า– ในกรณีที่คุณใช้ Shopify PaymentsEtsy Plus | Basic Shopify | |
ราคาเริ่มต้น | $10 | $29.00 |
ค่าธรรมเนียมการทำธุรกรรม | ✔ | มี ยกเว้นว่าจะใช้ Shopify Payments |
จำนวนผลิตภัณฑ์ที่คุณสามารถขายได้ | ไม่จำกัด | ไม่จำกัด |
การจำหน่ายผ่านหลายช่องทาง | ✘ | ✔ |
ระบบ POS | ✘ | ✔ |
การกู้คืนรถเข็นที่ถูกทิ้ง | ✘ | ✔ |
บริการลูกค้า 24/7 | มีในบางกรณี | ✔ |
บริการสนับสนุน
ทั้งสองมีศูนย์ช่วยเหลือที่ใหญ่ แต่ Shopify มีบริการสนับสนุนแบบไลฟ์ที่ดีกว่า
ทั้ง Etsy และ Shopify มีเอกสารการสนับสนุนที่ละเอียดครอบคลุม รวมถึงบทความและบทแนะนำเกี่ยวกับหัวข้อที่หลากหลาย นอกจากนี้ Etsy ยังให้คุณเข้าถึงคู่มือผู้ขายของพวกเขาได้ด้วย – คู่มือที่สามารถค้นหาได้และอธิบายรายละเอียดทุกด้านของการขายบนแพลตฟอร์มของพวกเขา อย่างไรก็ตาม Shopify มีจุดเด่นในเรื่องของบริการสนับสนุนโดยตรง พวกเขามีบริการไลฟ์แชท อีเมล และสนับสนุนทางโทรศัพท์ตลอด 24/7 ไม่จำกัด ในขณะที่ Etsy มีช่องทางสนับสนุนเหล่านี้เฉพาะปัญหาบางเรื่องเท่านั้น จากประสบการณ์ของเรา Shopify มีเจ้าหน้าที่บริการสนับสนุนที่ตอบสนองได้อย่างรวดเร็ว เมื่อเราทดสอบไลฟ์แชท เราก็มักจะได้รับคำตอบภายในไม่กี่นาทีShopify ชนะ แต่ Etsy ก็ยังเป็นตัวเลือกเสริมที่ดี
ถ้าคุณกำลังมองหาการขยายธุรกิจอย่างรวดเร็ว Shopify คือตัวเลือกที่ดีที่สุดของคุณ มันมีเครื่องมือแก้ไขที่ง่ายดาย, คุณสมบัติการขายที่หลากหลาย และแอปเสริมจากบุคคลที่สามเพียบ ไว้ใช้ขยายฟังก์ชันของเว็บไซต์คุณ อย่างไรก็ดี ถ้าคุณเพิ่งเริ่มต้นหรือมีสินค้าจำนวนไม่มาก Etsy ก็เป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่ใช้ได้ การใช้ฐานลูกค้าขนาดใหญ่ของพวกเขาสามารถช่วยเพิ่มความโดดเด่นของสินค้าของคุณได้อย่างแท้จริง เมื่อยอดขายของคุณเริ่มมีแรงผลักดันมากขึ้น คุณก็สามารถจัดตั้งร้านค้า Shopify เพื่อส่งเสริมการเติบโตให้กับแบรนด์ของคุณได้ สุดท้ายแล้ว คุณไม่จำเป็นต้องเลือกเพียงทางใดทางหนึ่งเท่านั้น คุณสามารถบริหารร้านค้า Shopify และ Etsy ไปพร้อม ๆ กันได้ เพื่อรับประโยชน์จากทั้งสองทางเลือก แม้ว่า Shopify และ Etsy จะเป็นตัวเลือกอีคอมเมิร์ซที่ได้รับความนิยม แต่พวกมันก็อาจจะไม่เหมาะสำหรับทุกคน ถ้าไม่มีแพลตฟอร์มใดที่ตอบโจทย์ความต้องการของคุณ คุณก็สามารถลองดูรายการของเราเกี่ยวกับเครื่องมือสร้างเว็บไซต์ที่ดีที่สุดสำหรับปี2024 เพื่อค้นหาตัวเลือกเพิ่มเติมEtsy
Shopify
แม่แบบ
ดีไซน์ร้านค้าที่กำหนดไว้แล้ว
80+ ธีมที่ออกแบบมาโดยมืออาชีพ
คุณสมบัติและความง่ายในการใช้งาน
ใช้งานง่าย ตัวเลือกการปรับแต่งจำกัด
เครื่องมือแก้ไขแบบลากวางที่ใช้งานง่าย ตัวเลือกการปรับแต่งมากมาย
แอป
ไม่มีร้านแอป แต่สามารถเพิ่มแอปจากตลาดบุคคลที่สามได้
6,000+ แอป, ค้นหาและติดตั้งจาก Shopify App Store ได้ง่าย
อีคอมเมิร์ซ
เครื่องมือที่จำเป็นสำหรับการขายอย่างรวดเร็ว
ชุดคุณสมบัติที่จำเป็นและแบบขั้นสูงที่ครบครัน
การตลาด
คุณสมบัติขั้นสูงในแผนแบบจ่ายเงิน
มีเครื่องมือมากมาย โฟกัสที่การตลาดผ่านอีเมลและการขายหลายช่องทาง
SEO
เครื่องมือค้นหาภายใน การรายงานแบบในตัว
เครื่องมือ SEO ในตัว, Shopify Analytics, สามารถเพิ่ม Google Analytics
ราคา
แผนฟรีและแผนแบบจ่ายเงินเพียงแบบเดียว ประหยัดกว่าสำหรับปริมาณการขายที่ต่ำกว่า
ทดลองใช้ฟรีและมีสามแผนแบบจ่ายเงิน ประหยัดกว่าสำหรับปริมาณการขายที่มากขึ้น
บริการสนับสนุน
- บทความช่วยเหลือ
- เว็บบอร์ดชุมชน
- บริการสนับสนุนทางไลฟ์แชท, อีเมลและโทรศัพท์ (เฉพาะการโทรกลับ) แบบจำกัด
- บทความช่วยเหลือ
- เว็บบอร์ดชุมชน
- บริการสนับสนุนทางไลฟ์แชท 24/7, อีเมลและโทรศัพท์ (เฉพาะการโทรกลับ) แบบไม่จำกัด