พวกเราจัดอันดับผู้ให้บริการตามการทดสอบและค้นคว้าอย่างเข้มงวด แต่ก็จะมีการคำนึงถึงความคิดเห็นของคุณและข้อตกลงเชิงพาณิชย์ของเรากับผู้ให้บริการด้วย หน้านี้มีลิงก์ affiliate การเปิดเผยข้อมูลการโฆษณา

สร้างเว็บไซต์ในปี 2024: คำแนะนำการสร้างเว็บไซต์อย่างละเอียด

เอริ เดเนียล ถูกเขียนขึ้นโดย:
11 กรกฎาคม 2024
การสร้างเว็บไซต์ของคุณดูเหมือนจะเป็นงานที่ยาก แต่ถ้าคุณทำตามขั้นตอนที่ถูกต้องมันอาจจะทำได้ง่ายกว่าที่คุณคิด คุณไม่จำเป็นต้องเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการออกแบบเว็บไซต์ที่มีประสบการณ์มานานเพื่อสร้างเว็บไซต์ที่ดูสวยงามไม่จำเป็นมีค่าใช้จ่ายที่แพงด้วยเช่นกัน!

ฉันสร้างเว็บไซต์มานานกว่าสิบปีและรีวิวเว็บโฮสต์และเครื่องมือสร้างเว็บไซต์มาเป็นเวลานาน

มีสองวิธีที่คุณสามารถสร้างเว็บไซต์ได้ ตัวเลือกแรกคือการใช้เครื่องมือสร้างเว็บไซต์ ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มที่ออกแบบมาเพื่อให้ทุกคนสามารถสร้างเว็บไซต์ได้ง่าย แม้ไม่มีประสบการณ์หรือทักษะด้านเทคนิคมาก่อน

วิธีที่สองคือใช้ WordPress วิธีนี้อาจมีความยุ่งยากเพิ่มมาอีกเล็กน้อย แต่ก็ยังใช้งานได้ค่อนข้างง่ายหากคุณมีความมีประสบการณ์ด้านเทคนิคและมันให้ความยืดหยุ่นมากกว่า

ฉันจะสำรวจทั้งสองตัวเลือกในคู่มือนี้ ดังนั้นโปรดอ่านเพื่อค้นหาว่าตัวเลือกใดเหมาะสมกับคุณ

ตัวเลือกที่ 1: การใช้เครื่องมือสร้างเว็บไซต์

เครื่องมือสร้างเว็บไซต์เป็นเครื่องมือออนไลน์ที่ช่วยให้การสร้างเว็บไซต์นั้นทำได้ง่ายขึ้น เครื่องมือสร้างเว็บไซต์สามารถช่วยให้คุณสร้างเว็บที่มีประสิทธิภาพมากได้โดยไม่จำเป็นต้องเขียนโค้ดหรือมีทักษะทางเทคนิค ซึ่งทำให้ผู้ใช้เริ่มต้นเข้าถึงได้และยังมีประโยชน์สำหรับมืออาชีพ

อินเทอร์เฟซที่ใช้งานง่ายและฟีเจอร์ต่าง ๆ ช่วยให้คุณสามารถใช้เครื่องมือเหล่านี้เพื่อสร้างเว็บไซต์ที่ดูดีได้ภายในเวลาไม่กี่ชั่วโมง หรือนาที เครื่องมือสร้างเว็บไซต์ส่วนใหญ่มีราคาไม่แพงและหลายบริการนำเสนอบริการฟรีหรือทดลองใช้งานฟรี ดังนั้นคุณจึงสามารถเริ่มใช้งานได้โดยไม่ต้องเสียเงินเลยสักบาทเดียว

เครื่องมือสร้างเว็บไซต์ส่วนใหญ่มาพร้อมกับเทมเพลตที่ออกแบบไว้ล่วงหน้า ซึ่งกำหนดสไตล์ เลย์เอาท์และโทนสีของเว็บไซต์ของคุณไว้ล่วงหน้าแล้ว คุณแค่ต้องเลือกเนื้อหาและรูปภาพของตัวเองและปรับแต่งให้เป็นแบรนด์ของคุณเอง

ขึ้นอยู่กับเครื่องมือสร้าง แต่ละเครื่องมือสร้างจะมีตัวเลือกในการสร้างและแก้ไขเว็บไซต์ของคุณแตกต่างกันออกไป โดยส่วนตัวแล้วฉันชอบเครื่องมือแก้ไขแบบลากและวาง เพราะมันช่วยให้คุณควบคุมเลย์เอาต์ได้มากขึ้นในขณะที่ใช้งานได้อย่างเรียบง่าย คุณสามารถจัดตำแหน่งองค์ประกอบได้ทุกที่ที่คุณต้องการหรือเพิ่มองค์ประกอบใหม่โดยการลากองค์ประกอบเหล่านั้นลงในที่ที่คุณเลือก

เครื่องมือสร้างบางอันนำเสนอตัวเลือกแอปพลิเคชั่นให้เลือก นี่เป็นวิธีการเพิ่มฟังก์ชั่นและการผสานการใช้งานในเว็บไซต์ของคุณที่ง่ายมาก ๆ คุณสามารถเพิ่มจดหมายข่าว ระบบจองห้องพัก ระบบไลฟ์แชทหรืออะไรอื่น ๆ ที่คุณต้องการได้โดยไม่มีค่าใช้จ่าย

แม้ว่าจะมีเครื่องมือสร้างเว็บไซต์มากมายให้เลือกใช้งาน แต่คุณภาพของบริการก็แตกต่างกันออกไปด้วย ตัวเลือกที่ฉันชอบมากที่สุดคือ Wix เพราะบริการนำเสนอเทมเพลตมากมายและอิสระในการปรับแต่งอย่างมาก แอปฟรี (และไม่ฟรี) จำนวนมาก ลองเข้าไปดูคำแนะนำเครื่องมือสร้างเว็บที่ดีที่สุดของเราเพื่อดูตัวเลือกอื่น ๆ ได้

การใช้เครื่องมือสร้างเว็บไซต์: คู่มือแบบละเอียด

1. ตัดสินใจว่าคุณต้องการสร้างเว็บไซต์ประเภทใด

คุณสามารถสร้างเว็บในแบบต่าง ๆ ได้ด้วยเครื่องมือสร้างเว็บส่วนใหญ่ คุณสามารถสร้างเว็บส่วนตัว, บล็อก, พอร์ตโฟลิโอหรือเรซูเม่ก็ได้ หรือถ้าหากคุณเป็นเจ้าของธุรกิจหรือร้านค้าออนไลน์ที่ต้องการขายผลิตภัณฑ์หรือบริการก็สามารถทำได้

คุณไม่จำเป็นต้องจำกัดจุดประสงค์การใช้งานเว็บไซต์ไว้แค่อย่างเดียว ตัวอย่างเช่น คุณอาจต้องการสร้างเว็บไซต์สำหรับธุรกิจของคุณที่มีผลงานของคุณและร้านค้าออนไลน์อยู่ในนั้นด้วย ด้วยเครื่องมือที่เหมาะสม คุณจะสามารถสร้างเว็บได้ในแบบที่คุณต้องการโดยไม่มีข้อจำกัดใด ๆ

2. เลือกเครื่องมือสร้างเว็บไซต์ที่เหมาะสมกับความต้องการของคุณ

แต่ละเครื่องมือก็จะมีข้อดีและฟีเจอร์ที่แตกต่างกันออกไป ดังนั้นคุณควรเลือกเครื่องมือสร้างที่เหมาะกับความต้องการของคุณ ยกตัวอย่างเช่น ในขณะที่เครื่องมือส่วนใหญ่นั้นนำเสนอฟีเจอร์ร้านค้าออนไลน์เป็นบริการเสริม แต่เครื่องมือสร้างอย่าง Shopify ถูกสร้างมาสำหรับร้านค้าออนไลน์โดยเฉพาะ ในทางกลับกันฟีเจอร์ทั่วไปอย่างเช่น บล็อก นั้นมีความสามารถที่จำกัดมาก

แต่ตัวเลือกที่คุ้มค่าที่สุดคือ Wix เพราะมันสามารถทำอะไรก็ได้! และยังมีฟีเจอร์อีคอมเมิร์ซที่ยอดเยี่ยม แอปพลิเคชั่นมากมายและเครื่องมือแก้ไขการลากและวางช่วยที่ให้คุณสามารถปรับแต่งหน้าตาเว็บไซต์ของคุณได้อย่างสมบูรณ์ Wix เป็นตัวเลือกที่ดีที่สุดในรายการของเรา และฉันจะใช้บริการนี้เพื่อสาธิตขั้นตอนในการสร้างเว็บของคุณในคู่มือนี้ แต่มันไม่ได้หมายความว่านี่เป็นทางเลือกเดียวของคุณ คุณสามารถทำตามขั้นตอนเหล่านี้กับเครื่องมือสร้างเว็บไซต์ที่มีคุณภาพส่วนใหญ่ได้

คำแนะนำเกี่ยวกับเครื่องมือสร้างเว็บไซต์ของเรา

ไม่มั่นใจว่าควรเลือกเครื่องมือสร้างเว็บไซต์อันไหนดี นี่คือคำแนะนำสำหรับวัตถุประสงค์ที่แตกต่างกัน

3. เลือกแผน

เครื่องมือสร้างเว็บไซต์ส่วนใหญ่มีแผนฟรีหรืออย่างน้อยก็มีช่วงทดลองใช้งานฟรี หากคุณเพิ่งเริ่มต้นสร้างเว็บไซต์ของคุณหรือหากงบประมาณของคุณมีจำกัด แผนฟรีอาจเป็นทางออกที่ดีที่สุด แผนบริการฟรีช่วยให้คุณสามารถทดลองใช้งานเว็บไซต์ได้โดยที่ไม่ต้องจ่ายเงินล่วงหน้า

แต่ข้อเสียของบริการฟรีก็คือมันมาพร้อมกับข้อจำกัดค่อนข้างมาก คุณจะถูกจำกัดให้ใช้โดเมนย่อยของเครื่องมือสร้างของคุณ (เช่น username.wixsite.com/yourcompany) ซึ่งไม่เป็นไรหากคุณสร้างเว็บไซต์เป็นงานอดิเรก แต่ถ้าคุณใช้เว็บไซต์เพื่อธุรกิจ คุณต้องมีชื่อโดเมนของคุณเอง (yourcompany.com) เพื่อให้ลูกค้าของคุณจะจดจำได้ง่าย

นอกจากนี้บริการฟรียังมีโฆษณาของเครื่องมืออีกด้วย ซึ่งทำให้ดูไม่เป็นมืออาชีพเอาเสียเลย

แผนบริการฟรียังจำกัดจำนวนการใช้งานในเว็บของคุณและปิดกั้นฟีเจอร์ที่เป็นประโยชน์ต่าง ๆ รวมถึง แอปช่วยติดตั้ง หรือปิดกั้นการใช้งานเครื่องมืออีคอมเมิร์ซ หากคุณต้องการเว็บไซต์เพื่อการใช้งานจริงจัง คุณจะต้องอัพเกรดเป็นแผนพรีเมี่ยม

สิ่งที่สำคัญก็คือคุณต้องรู้ว่าคุณต้องการเว็บแบบไหน ก่อนลงมือสร้างเว็บ ด้วยวิธีนี้คุณจะได้เลือกแผนบริการที่เหมาะกับความต้องการและงบของคุณ ยกตัวอย่างเช่น:

  • หากคุณต้องการขายออนไลน์ คุณอาจต้องการแผนอีคอมเมิร์ซ (หรืออย่างน้อยที่สุดบริการพร้อมเครื่องมือที่จำเป็นสำหรับอีคอมเมิร์ซ) Wix มีแผนทั่วไปและแผนธุรกิจ/อีคอมเมิร์ซให้เลือก แต่คุณสามารถทำธุรกรรมได้ในแผนธุรกิจ/อีคอมเมิร์ซเท่านั้น
  • หากคุณต้องการแสดงผลงานของคุณโดยโฮสต์วิดีโอหรือภาพความละเอียดสูงจำนวนมากบนเว็บไซต์ คุณจะต้องเลือกแผนที่มีพื้นที่เก็บข้อมูลและแบนด์วิดท์จำนวนมาก ยกตัวอย่างเช่น Squarespace ที่มีพื้นที่เก็บรูปภาพไม่จำกัด ในทุกแผน รวมถึงแผนที่ถูกที่สุดด้วย
ฉันขอแนะนำให้ใช้แผนราคาต่ำสุดที่มีฟีเจอร์ทั้งหมดที่คุณต้องการในตอนแรก เมื่อเวลาผ่านไปหากความต้องการของคุณเพิ่มขึ้นคุณสามารถอัปเกรดเป็นแผนที่มีราคาสูงขึ้นได้เสมอในอนาคต

4. เริ่มต้น: เลือกเทมเพลต

ขั้นตอนแรกในกระบวนการนี้คือการเลือกเทมเพลต เครื่องมือสร้างเว็บไซต์ทั้งหมดใช้เทมเพลต (บางบริการก็เรียกว่าธีม แต่มีความหมายเหมือนกัน) เป็นส่วนประกอบสำคัญของเว็บไซต์ของคุณ เทมเพลตได้ถูกออกแบบมาเป็นอย่างมืออาชีพ ให้ทำงานบนอุปกรณ์ทุกประเภท และช่วยให้คุณสร้างเว็บไซต์ของคุณได้ในระยะเวลาอันสั้น

เทมเพลตจะกำหนดสไตล์และเลย์เอาท์โดยรวมให้กับของเว็บไซต์ของคุณ (แม้ว่าคุณจะสามารถปรับแต่งได้อีกในภายหลัง) มีกรอบต่าง ๆ ที่ให้คุณสามารถเพิ่มเนื้อหาของคุณเองได้อย่างง่ายดาย

เครื่องมือสร้างเว็บไซต์ส่วนใหญ่มีไลบรารีเทมเพลตที่คุณสามารถเรียกดูได้ก่อนที่คุณจะสมัครใช้งาน เทมเพลตถูกจัดเรียงเป็นหมวดหมู่ ดังที่คุณเห็นในภาพสกรีนช็อตจากแกลเลอรีเทมเพลตของ Wix หมวดหมู่เหล่านั้นไม่ได้ทำขึ้นเพื่อจำกัดการใช้งาน (คุณสามารถใช้เทมเพลตพอร์ตโฟลิโอในการทำบล็อกได้) แต่แต่ละหมวดหมู่จะมีเทมเพลตที่ออกแบบมาเฉพาะสำหรับเว็บไซต์ประเภทนั้น ๆ

เทมเพลตเหล่านั้นดูสวยงามโดยไม่ต้องปรับแต่งใด ๆ เพิ่มเติม Squarespace มี เทมเพลตที่สวยที่สุดในบรรดาบริการแบบเดียวกัน

Снимок экрана 2022-10-13 в 20.44.18

เลือกเทมเพลตที่เหมาะกับความต้องการของคุณ5. ปรับแต่งเทมเพลตของคุณ

จริง ๆ แล้วคุณไม่จำเป็นต้องทำการปรับแต่งใด ๆ กับเทมเพลตเว็บไซต์ของคุณเมื่อคุณเลือกแล้ว แต่ไม่ว่าเทมเพลตจะถูกสร้างขึ้นมาอย่างดีแค่ไหน การปรับแต่งเว็บไซต์ของคุณเป็นสิ่งที่ทำให้เว็บไซต์ของคุณเองแตกต่างจากเว็บไซต์อื่น ๆ อย่างแท้จริง (โดยเฉพาะคนที่ใช้เทมเพลตเดียวกัน) คุณสามารถเริ่มต้นได้ด้วยการเปลี่ยนสีและแบบอักษรในเทมเพลตเพื่อให้เข้ากับการสร้างแบรนด์ธุรกิจของคุณได้

แม้ว่าเครื่องมือสร้างต่าง ๆ จะให้ระดับการปรับแต่งที่แตกต่างกัน แต่ข้อดีอย่างหนึ่งของการใช้เครื่องมือสร้างคือมันช่วยให้การปรับแต่งทำได้ค่อนข้างง่าย แม้ว่าเครื่องมือสร้างเว็บแต่ละบริการจะมีเครื่องมือแก้ไขของตัวเอง แต่ทุกอย่างที่ฉันกำลังจะแสดงให้เห็นใน Wix ก็สามารถทำได้ในเครื่องมือสร้างอื่น ๆ

การเปลี่ยนแบบอักษร

การเปลี่ยนฟ้อนต์ใน Wix นั้นทำได้ค่อนข้างง่าย แค่คลิกไปที่สิ่งที่คุณต้องการเปลี่ยน จากนั้นคลิกไปที่ปุ่ม แก้ไขข้อความ คุณสามารถแก้ไขฟ้อนต์แยกกันหรือจะใช้ตัวเลือก บันทึกธีม เพื่อเปลี่ยนฟ้อนต์ทั่วทั้งเว็บไซต์

ด้วย Wix คุณสามารถเลือกฟ้อนต์ที่แตกต่างกันสำหรับข้อความประเภทต่าง ๆ ได้ตัวอย่างเช่น คุณสามารถเลือกฟ้อนต์แบบหนึ่ง สำหรับหัวเรื่อง 1 เพื่อใช้เป็นหัวเรื่องหลักของคุณ (เช่นเทมเพลตด้านล่าง) และฟ้อนต์อื่นสำหรับหัวเรื่องย่อย คุณยังสามารถใช้ฟ้อนต์ที่แตกต่างกันสำหรับแต่ละย่อหน้าได้หากต้องการ

Снимок экрана 2022-10-13 в 20.13.33

Wix มอบระดับการปรับแต่งที่น่าทึ่งในด้านแบบอักษรเครื่องมือสร้างเว็บไซต์บางบริการให้คุณเปลี่ยนฟอนต์สำหรับทั้งเว็บไซต์ แทนที่จะเปลี่ยนเฉพาะหัวเรื่องและย่อหน้า แม้ว่าจะจำกัดอิสระในการปรับแต่งไปบ้าง แต่ฉันก็ยังแนะนำให้ใช้บริการนั้นเพราะมันช่วยให้คุณรักษาความสอดคล้องกันทั่วทั้งเว็บไซต์ของคุณได้

การเปลี่ยนสี

คุณสามารถเปลี่ยนสีฟ้อนต์ได้อย่างง่ายดายในกล่องการตั้งค่าข้อความ แต่การเปลี่ยนสีขององค์ประกอบอื่น ๆ เช่น พื้นหลังของคอลัมน์ทำได้ง่ายเช่นเดียวกัน ตัวอย่างเช่น คุณสามารถใช้พื้นหลังสีทึบได้โดยใช้เครื่องมือตัวเลือกสีตามที่แสดงในภาพด้านล่าง

Wix จะสร้างจานสีเสริมโดยอัตโนมัติเพื่อให้เข้ากับธีมของคุณ แต่คุณสามารถเปลี่ยนจานสีได้โดยใช้ตัวเลือก “เปลี่ยนสีเว็บไซต์” คุณยังสามารถเพิ่มสีของคุณเองเพื่อให้เข้ากับแบรนด์ของคุณ

Снимок экрана 2022-10-13 в 20.24.03

Wix มีตัวเลือกที่ช่วยให้การเปลี่ยนสีและพื้นหลังทำได้ง่าย

การย้ายองค์ประกอบในหน้าเว็บ

เครื่องมือแก้ไขแบบลากและวางทำให้การจัดเรียงเนื้อหานั้นทำได้ง่าย โดยลากองค์ประกอบจากที่หนึ่งไปยังอีกที่หนึ่ง Wix มีความโดดเด่นในด้านการให้อิสระในด้านการควบคุมเลย์เอาต์ของหน้าได้ แต่เครื่องมือแก้ไขแบบลากและวางอื่น ๆ ก็ให้อิสระที่คล้ายกันแก่คุณเช่นกัน

เครื่องมือแก้ไขของบริการอื่นอาจเป็นแบบการใช้ปุ่มขึ้น/ลงเพื่อการย้ายส่วนต่าง ๆ ในหน้าเว็บ เครื่องมือแก้ไขบล็อกรวมการทำงานของทั้งสองแบบเข้าด้วยกันโดยมีบล็อกที่สร้างไว้ล่วงหน้า (ข้อความ รูปภาพ วิดีโอ คอลัมน์ ฯลฯ) ที่คุณสามารถจัดเรียงตามตารางได้ คุณสามารถเลื่อนเนื้อหาขึ้นหรือลง แต่ไม่สามารถทำอย่างอื่นได้มากเท่ากับเครื่องมือแก้ไขแบบลากวาง

สิ่งที่ฉันชอบเกี่ยวกับ Wix ก็คือฟังค์ชั่น ซูมและจัดเรียง ตัวเลือกนี้จะช่วยให้คุณสามารถดูตัวอย่างหน้าเว็บทั้งหมดได้และสามารถจัดเรียงองค์ประกอบต่าง ๆ ในหน้าเว็บได้ง่ายขึ้น ที่ด้านล่างนี้จะเป็นตัวอย่างให้คุณสามารถดูได้ว่าการย้ายองค์ประกอบต่าง ๆ ด้วยเครื่องมือนี้นั้นสามารถทำได้ง่ายแค่ไหน

image-1.gif

การใช้เครื่องมือลากวางของ Wix เพื่อตัดเรียงองค์ประกอบต่าง ๆ6. เพิ่มเนื้อหาของคุณเอง

เมื่อต้องการเพิ่มเนื้อหาของคุณเอง คุณก็แค่แทนที่ข้อความและรูปภาพลงไปใน “ข้อความตัวอย่าง” ในเทมเพลตของคุณ มันอาจใช้เวลาสักครู่นึงหากคุณมีเนื้อหาจำนวนมาก แต่กระบวนการโดยรวมนั้นทำได้ง่ายมาก

หากคุณไม่มีภาพของคุณเองเครื่องมือสร้างเว็บไซต์ส่วนใหญ่จะนำเสนอคลังรูปภาพที่ให้คุณเพิ่มรูปภาพฟรีลงในเว็บไซต์ของคุณได้ทันที

วิธีเพิ่มข้อความ

คุณสามารถเพิ่มส่วนข้อความใหม่ไปยังหน้าเว็บของคุณได้ในไม่กี่คลิก ใน Wix คุณใช้เครื่องมือเพิ่ม(Add) ในแถบเครื่องมือทางด้านซ้ายแล้วเลือกข้อความ (Text) ในเมนูป๊อปอัพ

ฉันแนะนำให้สร้างพื้นที่ที่คุณต้องการเพิ่มข้อความก่อน แล้วจึงค่อยกลับไปเพิ่มเนื้อหาของคุณทีหลัง คุณสามารถใช้ Lorem Ipsum Generator ฟรีของเราเพื่อสร้างข้อความตัวอย่างใส่เอาไว้จนกว่าคุณจะพร้อมที่จะเพิ่มข้อความของคุณลงไป

Снимок экрана 2022-10-13 в 20.25.56

ตัวเลือกรูปแบบข้อความที่หลากหลายวิธีเพิ่มรูป

เช่นเดียวกับการเพิ่มข้อความในเว็บไซต์ของคุณ การเพิ่มรูปภาพนั้นง่ายมาก ใน Wix ให้เปิดเมนูเพิ่ม (Add) เลือกรูปภาพ (Image) (ใต้ข้อความ) และเลือกจากตัวเลือกแหล่งรูปภาพ คุณสามารถอัปโหลดภาพของคุณเอง ใช้ภาพประกอบของ Wix ฟรี ค้นหาฐานข้อมูลภาพของ Unsplash หรือเลือกภาพสต็อกระดับพรีเมียมจาก Shutterstock (มีค่าธรรมเนียมเพิ่มเติม) ก็ได้ จากนั้นสิ่งที่คุณต้องทำก็คือวางรูปภาพในตำแหน่งที่คุณต้องการบนหน้าเพจของคุณ

คุณสามารถใช้เครื่องมือเพิ่มภาพ (Add Image) เพื่อเพิ่มโลโก้ในเว็บไซต์ของคุณ ฉันได้ให้คำแนะนำเกี่ยวกับโลโก้เพิ่มเติมในบทความนี้

หากคุณกำลังใช้ภาพ Wix หรือ Unsplash ฟรีรูปภาพเหล่านี้อาจได้รับการปรับให้เหมาะสมแล้ว หมายความว่ามันถูกบีบอัดให้มีขนาดไฟล์เล็กลงเพื่อไม่ให้เว็บไซต์ของคุณโหลดได้ช้าลง อย่างไรก็ตามหากคุณใช้รูปภาพที่มีความละเอียดสูงของคุณเอง คุณควรลดขนาดไฟล์ก่อนที่จะอัปโหลด ซึ่งทำได้ง่าย ๆ ด้วยเครื่องมือฟรี เช่น Image Compressor

Снимок экрана 2022-10-13 в 20.27.20

Wix นำเสนอตัวเลือกที่หลากหลายในการเพิ่มรูปภาพในเว็บไซต์ของคุณวิธีการเพิ่มหน้าเพจในเว็บไซต์

เทมเพลตเครื่องมือสร้างเว็บไซต์มักจะเป็นเซ็ตหน้าเว็บที่ออกแบบไว้ล่วงหน้าหลายหน้า เช่น หน้าแรก หน้าเกี่ยวกับเว็บและติดต่อ หากคุณต้องการเพิ่มหน้าอื่น ๆ เช่น หน้าบริการ คุณสามารถทำได้โดยคลิกที่ปุ่ม เมนูเว็บไซต์ (Site Menu) ที่ด้านบนของแถบเครื่องมือทางด้านซ้ายและเลือก ปุ่มเพิ่มหน้า (Add Page) ที่ด้านล่างของเมนูป๊อปอัพ

Снимок экрана 2022-10-13 в 20.31.06

การเพิ่มหน้าใหม่ด้วย Wix นั้นทำได้ง่ายสุด ๆเมื่อคุณเพิ่มหน้าใหม่ในเว็บไซต์ของคุณ หน้าเหล่านั้นจะปรากฏโดยอัตโนมัติในเมนูการนำทางของคุณ

7. การเพิ่มแอพพลิเคชั่น

แอปของบริการและของบุคคลที่สามจะช่วยเพิ่มฟังก์ชั่นการใช้งานให้กับเว็บไซต์ของคุณ แต่ละบริการจะนำเสนอแอปที่ไม่เหมือนกัน เครื่องมืออย่าง Wix มีแอปมากมายให้คุณเลือกใช้งาน มีหลายแอปที่สามารถใช้งานได้ฟรีและแม้แต่แอปพรีเมี่ยมบางบริการก็มีเวอร์ชั่นฟรีหรือการทดลองใช้งานฟรีให้ใช้เช่นกัน

คุณสามารถใช้แอปเพื่อเพิ่มคุณสมบัติพิเศษให้กับเว็บไซต์ของคุณได้ในเวลาไม่กี่นาที ตัวอย่างเช่น ตลาดแอปของ Wix ให้คุณเพิ่มฟีเจอร์ต่าง ๆ เช่น การจองออนไลน์ ไลฟ์แชท การสมัครรับจดหมายข่าว การผสานรวมโซเชียลมีเดียและอื่น ๆ อีกมากมายในเว็บไซต์ของคุณ

nnn

ตลาดแอปของ Wix นำเสนอตัวเลือกมากมายในการเพิ่มฟังก์ชั่นการใช้งานในเว็บไซต์ของคุณเพื่อเพิ่มแอปของในเว็บบน Wix ของคุณก็เพียงแค่คลิกไปที่ไอคอน App Market (ไอคอนรูปสี่เหลี่ยมสี่อันที่ด้านซ้านมือของแถบเครื่องมือ) จากนั้นคุณสามารถค้นหาแอปที่ต้องการได้หรือจะดูตัวเลือกไปเรื่อย ๆ เพื่อหาไอเดียใหม่ ๆ ก็ได้

เมื่อเจอแอปที่ต้องการแล้ว ก็คลิกไปที่แอปแล้วเลือก เพิ่มลงในเว็บไซต์

Снимок экрана 2022-10-13 в 20.32.37

แค่ไม่กี่คลิกก็สามารถติดตั้งแอปจาก Wix App Market ในเว็บไซต์ของคุณได้แล้วOnce the app is installed, it’s immediately available on your web page. ในตัวอย่างนี้ ฉันเพิ่มแอป Rollover Image Effects เพื่อเพิ่มคุณภาพในการแสดงรูปภาพในเว็บของฉันให้ดีขึ้น และมันก็ถูกเพิ่มเข้ามาในเว็บไซต์ของฉันได้ภายใน 30 วินาที!

8. การเลือกชื่อโดเมน

ก่อนที่คุณจะเผยแพร่เว็บไซต์ของคุณ คุณจะต้องเลือกชื่อโดเมนก่อน ถ้าคุณใช้แผนฟรี คุณจะต้องใช้ชื่อโดเมนของบริการ (ตัวอย่าง yourusername.wixsites.com/yourwebsitename) หากคุณสมัครใช้แผนชำระเงินรายปี เครื่องมือสร้างส่วนใหญ่จะมีชื่อโดเมนที่กำหนดเองนำเสนอให้ในปีแรก

เครื่องมือสร้างเว็บไซต์ส่วนใหญ่จะมีตัวเลือกในการลงทะเบียนและตั้งค่าชื่อโดเมนของคุณ นั่นหมายความว่าสิ่งที่คุณต้องกังวลก็คือการเลือกชื่อโดเมนที่ดีที่สุดสำหรับเว็บไซต์ของคุณ การมีชื่อโดเมนที่เหมาะสมนั้นเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่ง ดังนั้นอย่ารีบเร่งเลือกชื่อ! แม้จะมีชื่อที่สมบูรณ์แบบแล้ว แต่ปัญหาที่ใหญ่ที่สุดอีกอย่างหนึ่งก็คือคุณต้องดูว่าโดเมนที่คุณต้องการนั้นสามารถใช้ได้จริงหรือไม่

ถ้าหากคุณเลือกไม่ถูก เราก็มีคำแนะนำในการเลือกชื่อโดเมนให้คุณ!

9. ดูตัวอย่างและเผยแพร่เว็บไซต์ของคุณ

เมื่อคุณเพิ่มเนื้อหาทั้งหมดของคุณและเลือกชื่อโดเมนแล้ว ในที่สุดก็ถึงเวลาที่จะทำให้เว็บไซต์ของคุณออนไลน์เสียที สำหรับเครื่องมือสร้างเว็บไซต์ส่วนใหญ่แล้วขั้นตอนนี้เป็นเพียงแค่การคลิกปุ่ม (หรือสองปุ่ม) เท่านั้น

อย่าเพิ่มรีบร้อนเผยแพร่เว็บไซต์ ทางที่ดีคุณควรดูตัวอย่างเว็บไซต์ก่อน ตรวจดูให้แน่ใจว่าคุณพอใจกับเว็บแล้วก่อนที่จะเผยแพร่จริง ๆ การแสดงตัวอย่างช่วยให้คุณเห็นเว็บไซต์ของคุณในแบบเดียวกับที่ผู้เยี่ยมชมเห็น โดยไม่มีเครื่องมือแก้ไขอยู่รอบ ๆ นอกจากนี้หากมีจุดใดที่คุณลืมเพิ่มเนื้อหาของคุณ หรือหน้าว่างใด ๆ ที่คุณลืมใส่ข้อมูล การแสดงตัวอย่างเว็บไซต์ของคุณสามารถช่วยให้คุณเห็นถึงรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ เหล่านั้นก่อนจะเผยแพร่

Most builders will also let you preview the mobile version of your site. ตรวจสอบให้แน่ใจว่าเว็บไซต์สามารถใช้งานได้บนมือถือด้วยเช่นกัน

loko_optimized

เมื่อเว็บไซต์ของคุณถูกเผยแพร่ คุณสามารถดูและแบ่งปันได้อย่างง่ายดายเมื่อคุณกด Publish แล้วเว็บไซต์ของคุณจะใช้งานได้และคุณสามารถเริ่มโปรโมตได้!

ตารางเปรียบเทียบเครื่องมือสร้างเว็บไซต์

เครื่องมือสร้างเว็บไซต์ แผนฟรี เครื่องมือแบบลากและวาง แอปพลิเคชั่น/การผสานการใช้งาน เทมเพลต ราคาเริ่มต้น
Wix 800+ $0 อ่านรีวิว
Squarespace 140+ $16.00 อ่านรีวิว
เครื่องมือสร้างเว็บไซต์ Hostinger 100+ $2.99 อ่านรีวิว
IONOS 18 $6.00 อ่านรีวิว
SITE123 240+ $0 อ่านรีวิว
WordPress.com 140+ native

Thousands of third-party templates
$4.00 อ่านรีวิว
Webnode 110+ $3.90 อ่านรีวิว
Shopify 70+ $29.00 อ่านรีวิว
BigCommerce 200+ $29.00 อ่านรีวิว
Square Online 1 $0 อ่านรีวิว

คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับเครื่องมือสร้างเว็บไซต์

เครื่องมือสร้างเว็บไซต์ใดที่ใช้งานได้ง่ายที่สุด

มีเครื่องมือสร้างเว็บไซต์จากหลายบริการที่ใช้งานง่าย อย่างเช่นIONOS และ SITE123 แต่อย่างไรก็ตาม Wix เป็นตัวเลือกที่ดีที่สุดของฉัน เพราะบริการให้อิสระในการปรับแต่งที่มากกว่า แต่ในขณะเดียวกันก็ยังรักษาความง่ายในการใช้งานเอาไว้ได้ ไม่เพียงแต่ใช้งานได้ง่ายเท่านั้น แต่ยังมีฟีเจอร์มากกว่าเครื่องมืออื่น ๆ อีกด้วย

เว็บไซต์ของฉันจะปรากฏใน Google และเครื่องมือค้นหาอื่น ๆ ไหม

ใช่ เว็บไซต์ของคุณจะปรากฏในผลลัพธ์ของเครื่องมือค้นหา แต่ยังอยู่ในอันดับที่ไม่สูงมากพอ คุณต้องการใช้เว็บไซต์ของคุณอยู่ในอันดับที่ดีที่สุดเท่าที่จะทำได้ใช่ไหมล่ะ เครื่องมือเว็บไซต์ทั้งหมดนำเสนอเครื่องมือ SEO (search engine optimization) ที่จะช่วยเพิ่มอันดับเว็บของคุณในการค้นหา

บางเครื่องมือนำเสนอแค่การแก้ไขชื่อ meta และคำอธิบาย แต่บางเครื่องมือก็นำเสนอฟีเจอร์ SEO ขั้นสูง ยกตัวอย่างเช่น Wix ที่นำเสนอ SEO Wiz ที่จะช่วยให้คำแนะนำ SEO และคำอธิบายอย่างละเอียดถึงวิธีการทำให้เว็บไซต์ของคุณอยู่ในอันดับที่ดี

เว็บไซต์ของฉันจะทำงานได้บนอุปกรณ์มือถือหรือไม่

คำตอบง่าย ๆ สำหรับคำถามนี้คือ ‘ใช่’ เครื่องมือส่วนใหญ่นำเสนอเทมเพลตที่เหมาะสำหรับการใช้งานบนมือถือ (เว็บไซต์ของคุณจะปรับขนาดหน้าจอให้เข้ากับอุปกรณ์มือถือโดยอัตโนมัติ) หรือมีโปรแกรมแก้ไขมุมมองบนอุปกรณ์เคลื่อนที่ เพื่อให้คุณสามารถแก้ไขเว็บไซต์เวอร์ชันมือถือได้แยกต่างหาก หากคุณต้องการตรวจสอบว่าเว็บไซต์ของคุณตอบสนองบนมือถือหรือไม่ คุณสามารถใช้เครื่องมือตรวจสอบการตอบสนองเทมเพลตของเราได้

ฉันต้องการเครื่องมือสร้างอีคอมเมิร์ซโดยเฉพาะหรือไม่

มันขึ้นอยู่กับจำนวนผลิตภัณฑ์ที่คุณวางแผนจะขายและจุดประสงค์หลักของเว็บไซต์ของคุณ สำหรับบล็อกที่ขายสินค้าเป็นจุดประสงค์รอง เครื่องมือสร้างเว็บธรรมดาที่มีฟีเจอร์อีคอมเมิร์ซก็เพียงพอแล้ว นั่นเป็นเพราะเครื่องมือสร้างอีคอมเมิร์ซมักจะเน้นที่การขายมากกว่าและเครื่องมือสร้างบล็อกของบริการก็จะมีควมสามารถลดลั่นลงมาแต่ Wix ก็สามารถทำได้ดีในทั้งสองด้าน ด้วยเครื่องมือสำหรับสร้างเนื้อหาและเครื่องมือสำหรับอีคอมเมิร์ซที่ยอดเยี่ยม

อย่างไรก็ตาม หากคุณวางแผนจะขายผลิตภัณฑ์หลายอย่างผ่านร้านค้าออนไลน์ของคุณเอง ฉันขอแนะนำเครื่องมือสร้างอีคอมเมิร์ซเฉพาะเช่น เครื่องมือสร้างเว็บที่ออกแบบมาสำหรับร้านค้าอย่าง Shopify เครื่องมือสร้างเว็บอีคอมเมิร์ซมีเครื่องมือการจัดการการขายที่มีประสิทธิภาพมากกว่าและบางบริการก็ยอมให้คุณขายผ่าน Instagram และ Facebook ด้วยเช่นกัน

ฉันสามารถจ้างคนอื่นเพื่อสร้างเว็บไซต์ของฉันให้ฉันได้ไหม

ได้ คุณสามารถทำได้อย่างแน่นอน! หากคุณไม่มีเวลาในการสร้างเว็บไซต์ของคุณเองหรืออยากให้มืออาชีพดูแลให้คุณ คุณสามารถ จ้างนักออกแบบเว็บไซต์ในราคาเพียง $5 บน Fiverr ตลาดที่ดีที่สุดสำหรับการค้นหาฟรีแลนซ์ราคาต่ำ

ตัวเลือกที่ 2: การใช้ WordPress

เครื่องมือสร้างเว็บไซต์เป็นวิธีที่ง่ายที่สุดในการสร้างเว็บไซต์ของคุณ แต่มันอาจมีราคาแพงกว่าการใช้ WordPress กับแผนเว็บโฮสติ้งเล็กน้อย หากคุณกำลังมองหาตัวเลือกที่เหมาะสำหรับงบประมาณน้อยและคุณมีความรู้ในด้านเทคนิคการสร้างเว็บไซต์ อย่างนั้น WordPress อาจเป็นตัวเลือกที่เหมาะสำหรับคุณ

ตอนนี้ WordPress มีสองเวอร์ชั่น: WordPress.comซึ่งเป็นเวอร์ชั่นที่เรียบง่ายและโฮสต์ WordPress ด้วยตนเอง ในส่วนนี้ฉันจะพูดถึง WordPress ที่โฮสต์โดยตนเอง

WordPress ไม่ได้ใช้งานง่ายเหมือนเครื่องมือสร้างเว็บไซต์ แต่มันก็ใช้งานได้ค่อนข้างง่าย และยังมีเทมเพลตและปลั๊กอินฟรีมากมายสำหรับการปรับแต่งเว็บไซต์ของคุณ ถึงแม้ว่ากระบวนการสร้างอาจจะยากไปบ้าง แต่คุณไม่จำเป็นต้องรู้วิธีการเขียนโค้ดหรือมีประสบการณ์มากมายในการสร้างเว็บไซต์ด้วย WordPress

โปรดทราบ แบ็กเอนด์ WordPress มีให้บริการในภาษาไทย คุณจะสามารถสร้างเว็บไซต์ของคุณได้อย่างง่ายดาย

หากคุณต้องการสร้างเว็บไซต์ WordPress สำหรับมืออาชีพคุณสามารถ จ้างนักพัฒนาบน Fiverr ได้ในราคาเพียง $51 ค้นหาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับสิ่งนี้ด้านล่าง

รายละเอียดทีละขั้นตอน

1. Choose a hosting plan

แม้ว่า WordPress จะให้คุณสามารถการสร้างเว็บไซต์ของคุณได้ฟรี 100% คุณจะต้องสมัครบริการเว็บโฮสติ้งเพื่อทำให้เว็บของคุณออนไลน์ได้ (ไม่เหมือนกับเครื่องมือสร้างเว็บไซต์ที่ให้บริการโฮสติ้งในแผนของพวกเขา) หากต้องการข้อมูลเชิงลึกเพิ่มเติม เข้าไปดูที่รายการบริการเว็บโฮสติ้งที่ดีที่สุด ในปี 2024

มีตัวเลือกบริการเว็บโฮสติ้งให้เลือกมากมาย แต่มีบางบริการเท่านั้นที่ได้รับการยอมรับจากผู้เชี่ยวชาญของเรา

ตัวเลือกเว็บโฮสต์ของเราสำหรับเว็บไซต์ WordPress

  • Hostinger1 – เป็นหนึ่งในบริการเว็บโฮสติ้งที่ถูกที่สุด Hostinger เหมาะอย่างยิ่งหากคุณมีงบที่จำกัด ความเร็วในการโหลดที่ยอดเยี่ยม (ที่เราได้ทดสอบอย่างละเอียดแล้ว) และเครื่องมือติดตั้ง WordPress ในคลิกเดียวยังทำให้เป็นตัวเลือกที่ดีที่สุดโดยรวมของเรา หากคุณเลือกใช้การจัดการ WordPress คุณจะได้รับประโยชน์จากความปลอดภัยและเซิร์ฟเวอร์ที่ได้รับการเพิ่มประสิทธิภาพสำหรับ WordPress
  • InterServer1 – ด้วยราคาโฮสติ้งรายเดือนที่ต่ำและพื้นที่เก็บข้อมูลไม่จำกัด InterServer จึงเป็นตัวเลือกที่ยอดเยี่ยมหากคุณเป็นธุรกิจที่กำลังเติบโต เซิร์ฟเวอร์ของบริษัทตั้งอยู่ในสหรัฐอเมริกาจึงสามารถให้บริการความเร็วในการโหลดที่ยอดเยี่ยมสำหรับกลุ่มเป้าหมายในสหรัฐอเมริกา
  • A2 Hosting1 – A2 Hosting นำเสนอบริการแชร์โฮสติ้งแบบมาตรฐาน บริการจัดการโฮสติ้ง WordPress นอกจากนี้ A2 Hosting ยังเป็นบริษัทโฮสติ้ง ‘สีเขียว’ ที่มุ่งเน้นการลดปริมาณการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ มันให้ความเร็วที่ยอดเยี่ยมและมีระบบความปลอดภัยที่ยอดเยี่ยม มีเครื่องมือตรวจจับและกำจัดภัยคุกคาม HackScan ให้ใช้งานได้ฟรี ๆ
  • Nexcess1 – หากคุณไม่รังเกียจที่จะเลือกตัวเลือกที่แพงกว่าและได้การจัดการโฮสติ้งระดับพรีเมียมเป็นการตอบแทน Nexcess อาจเป็นตัวเลือกโฮสติ้งที่ดีที่สุดสำหรับการให้บริการเว็บไซต์ WordPress ของคุณ ด้วย Nexcess คุณสามารถมั่นใจได้ว่าทุกส่วนของกระบวนการโฮสต์จะได้รับการดูแลโดยผู้เชี่ยวชาญที่เชี่ยวชาญ
  • Kinsta1 – การจัดการโฮสติ้ง (ทุกอย่างถูกเตรียมไว้ก่อนแล้ว) และความเร็วที่รวดเร็วทำให้ Kinsta เป็นตัวเลือกที่ยอดเยี่ยมในแทบทุกด้าน ตราบใดที่คุณยินดีจะจ่ายมากกว่า แม้จะคุ้มค่ามาก แต่ Kinsta ก็ยังค่อนข้างแพง แต่มั่นใจได้เลยว่าคุณจะได้รับบริการพรีเมียมเป็นการตอบแทน
  • InMotion Hosting1 – อีกทางเลือกหนึ่งสำหรับการโฮสต์ในสหรัฐอเมริกา InMotion Hosting เสียสละความเร็วของ InterServer บางส่วน (แต่ไม่มาก) เพื่อแลกกับการช่วยเหลือที่ยอดเยี่ยม หากคุณกำลังมองหาโฮสติ้งที่ยอดเยี่ยมในสหรัฐอเมริกา และมีความเชื่อถือในอันดับต้น ๆ InMotion อาจเป็นทางเลือกสำหรับคุณ
เมื่อคุณเลือกโฮสต์สำหรับเว็บไซต์ WordPress ของคุณ มันมีฟีเจอร์บางอย่างที่คุณควรมองหา:

  • ใบรับรอง SSL ใบรับรอง SSL ทำให้เว็บไซต์ของคุณปลอดภัย ทำให้เว็บไซต์ของคุณมีไอคอนรูปกุญแจเล็ก ๆ ในแถบที่อยู่ของเว็บเบราว์เซอร์ บริการเว็บโฮสติ้งส่วนใหญ่จะนำเสนอสิ่งนี้ให้ฟรี ๆ เมื่อเว็บไซต์ของคุณเผยแพร่แล้ว คุณสามารถตรวจสอบว่าใบรับรอง SSL บนเว็บไซต์ของคุณทำงานอย่างถูกต้องด้วยเครื่องมือตรวจสอบ SSL
  • การเพิ่มประสิทธิภาพ WordPress เว็บโฮสติ้งที่ดีที่สุดสำหรับ WordPress มีเซิร์ฟเวอร์ที่ได้รับการปรับแต่งเป็นพิเศษเพื่อปรับปรุงประสิทธิภาพ ดังนั้นหน้าเว็บของคุณจะโหลดเร็วขึ้น
  • คุณสมบัติด้านความปลอดภัย เว็บโฮสติ้งบางรายคิดค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมสำหรับการรักษาความปลอดภัย ดังนั้นคุณมองหาบริการที่มีฟีเจอร์ที่สำคัญ เช่น การป้องกันมัลแวร์ ไฟร์วอลล์และการสำรองข้อมูลอัตโนมัติ
2. เลือกชื่อโดเมน

กระบวนการนี้ค่อนข้างเหมือนกันสำหรับการใช้ WordPress สร้างเว็บไซต์ เว็บโฮสติ้งบางแห่งมีชื่อโดเมนฟรีพร้อมแผนรายปี แต่ไม่ใช่ทุกบริการที่จะนำเสนอสิ่งนี้ หากคุณเลือกโฮสต์ที่ไม่ได้นำเสนอชื่อโดเมนฟรี หากคุณเลือกโฮสต์ที่ไม่ได้นำเสนอโดเมนฟรี การซื้อโดเมนจากบุคคลที่สามอาจถูกกว่าการซื้อผ่านโฮสต์เว็บของคุณก็ได้ คุณสามารถหาซื้อชื่อโดเมนได้ในราคาต่ำกว่า $1 ในตลาดโดเมน

3. ใช้โปรแกรมติดตั้งในคลิกเดียวเพื่อติดตั้ง WordPress

แผนโฮสติ้งบางแผนมาพร้อมกับ WordPress ที่ติดตั้งไว้ล่วงหน้า หากแผนของคุณไม่มี ก็อย่าตกใจคุณสามารถใช้โปรแกรมติดตั้งในคลิกเดียวที่โฮสต์ของคุณมอบให้

“คลิกเดียว” อาจจะดูเกินจริงไปสักหน่อย แต่ก็ไม่มากเท่าไหร่ แค่คลิกเพียงไม่กี่ครั้ง เครื่องมือเหล่านี้จะตั้งค่าสคริปต์และฐานข้อมูลทั้งหมดที่จำเป็นในการทำให้ WordPress ทำงานบนเว็บไซต์ของคุณได้ สิ่งที่คุณต้องทำคือระบุชื่อผู้ใช้และรหัสผ่านที่คุณต้องการใช้ในการเข้าสู่ WordPress เมื่อการติดตั้งเสร็จสมบูรณ์

โฮสต์ที่แตกต่างกันอาจใช้ตัวติดตั้งแบบคลิกเดียวที่แตกต่างกัน แต่โดยจริง ๆ แล้วพวกเขาก็เหมือนกันและมันก็ใช้งานได้ง่ายมาก ๆ

installing wordpress via siteground TH14 e1665684667374

โปรแกรมติดตั้ง WordPress ส่วนใหญ่จะคล้ายกันกับของ SiteGround4. เข้าถึง WordPress ผ่านแผงควบคุมการโฮสติ้งของคุณ

วิธีที่แน่นอนที่คุณจะเข้าถึง WordPress อาจแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับเว็บโฮสติ้งของคุณ ส่วนใหญ่แล้วตัวเลือกในการจัดการเว็บไซต์ WordPress ของคุณจะอยู่ในหน้าแดชบอร์ด

ฉันได้สาธิตการใช้งานโดยใช้ SiteGround ในภาพสกรีนช็อตด้านล่าง คุณจะเห็นว่ามีปุ่มสำหรับลงชื่อเข้าใช้แผงควบคุมเว็บไซต์ WordPress ของฉันโดยอัตโนมัติ โฮสต์อื่น ๆ อาจให้คุณพิมพ์ชื่อผู้ใช้และรหัสผ่าน WordPress เพื่อลงชื่อเข้าใช้

SiteGround offers a one click login option for your WordPress dashboard TH15

SiteGround เสนอตัวเลือกเข้าสู่ระบบด้วยคลิกเดียวสำหรับแดชบอร์ด WordPress ของคุณถ้านี่เป็นครั้งแรกที่คุณใช้ WordPress แดชบอร์ดของบริการอาจดูยุ่งยากนิดหน่อย ไม่ต้องเป็นกังวลไป เพราะจริง แล้วมันใช้งานได้ง่ายมาก ด้านล่างคือภาพสกรีนช็อตของแดชบอร์ดพร้อมองค์ประกอบที่สำคัญทั้งหมดที่มีข้อความระบุเอาไว้สำหรับคุณ

Снимок экрана 2022-10-13 в 20.37.22

แดชบอร์ดของ WordPress นั้นใช้งานได้ง่ายมาก ถ้าคุณรู้ว่าอะไรอยู่ตรงไหน!WordPress ใช้ศัพท์แสงบางอย่างที่แตกต่างจากเครื่องมือสร้างเว็บไซต์อื่น ๆ ดังนั้นเพื่อให้ง่ายขึ้นนี่เป็นบทสรุปสั้น ๆ เกี่ยวกับส่วนต่าง ๆ ของแดชบอร์ด WordPress:

องค์ประกอบ WordPress มันทำอะไร มันเทียบเท่ากับเครื่องมือสร้างเว็บไซต์
โพสต์ ดู แก้ไขและเพิ่มโพสต์ใหม่ในเว็บไซต์ของคุณ (ดูด้านล่างสำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับโพสต์และหน้า) บล็อก
สื่อ ดู แก้ไขและอัปโหลดรูปภาพใหม่และประเภทสื่ออื่น ๆ (เช่น วิดีโอ) แกลลอรี
หน้าเพจ ดู แก้ไขและเพิ่มหน้าใหม่ในเว็บไซต์ของคุณ หน้าเพจ
ตัวติดตั้งธีม ดูธีมที่มีอยู่ ค้นหาธีมฟรีจากคลังธีมของ WordPress และเพิ่มธีมของบุคคลที่สาม เทมเพลต
การปรับแต่ง ปรับแต่งสี แบบอักษร เลย์เอาท์และองค์ประกอบอื่น ๆ ของเว็บไซต์ของคุณ (ขึ้นอยู่กับธีม) ด้วยการแสดงตัวอย่างเรียลไทม์ว่าการเปลี่ยนแปลงของคุณมีหน้าตาอย่างไร รูปแบบ
การตั้งค่าธีม ไม่ใช่ธีมทั้งหมดที่มีส่วนนี้ แต่ธีมพรีเมี่ยมมีแนวโน้มที่จะนำเสนอการตั้งค่าที่มากกว่าที่ไม่สามารถใช้ได้ในมุมมองการปรับแต่ง N/A
ปลั๊กอิน ดูและเปิด/ปิดใช้งานปลั๊กอินที่มีอยู่ ค้นหาและติดตั้งปลั๊กอินจาก WordPress Repository และอัปโหลดธีมของบุคคลที่สาม แอพพลิเคชั่น
การตั้งค่า เปลี่ยนการตั้งค่าพื้นฐาน เช่น ชื่อเว็บไซต์/คำบรรยายรูป แบบวันที่และลิงก์ถาวร (โครงสร้าง URL ของหน้าและโพสต์) การตั้งค่า
5. เลือกธีม

ธีมใน WordPress คล้ายกับเทมเพลตในเครื่องมือสร้างเว็บไซต์ ความแตกต่างก็คือใน WordPress ธีมจะให้การควบคุมมากกว่าแค่สไตล์/เลย์เอาต์ทั่วไปของเว็บไซต์ของคุณ บางธีมจะมีปลั๊กอินอยู่ในนั้นอยู่แล้ว (หรือ “ปลั๊กอินที่ต้องการ”)

Снимок экрана 2022-10-13 в 20.40.02

ในแผงธีม สามารถดูธีมทั้งหมดที่คุณติดตั้งได้ธีมเริ่มต้นของ WordPress นั้นค่อนข้างธรรมดา ดังนั้นคุณอาจต้องการใช้ธีมอื่น โชคดีที่เครื่องมือติดตั้งธีม WordPress ทำให้สิ่งนี้ง่ายมาก คุณสามารถค้นหาตัวเลือกต่าง ได้ในคลังธีม WordPress และติดตั้งธีมฟรีนับพันได้อย่างง่ายดาย คุณสามารถติดตั้งธีมและใช้เครื่องมือปรับแต่งหน้าตาเว็บไซต์ของคุณก่อนจะเปิดใช้งานได้

WordPress repository TH18

ค้นหา ติดตั้งและเปิดใช้งานธีมฟรีจากคลังธีมของ WordPressนอกจากธีมฟรีที่นำเสนอโดย WordPress แล้ว คุณยังสามารถซื้อธีมพรีเมียมของบริษัทอื่น ๆ ได้จากตลาดซื้อขายธีม อย่าง TemplateMonster และ ThemeForest

6. การเพิ่มปลั๊กอิน

ปลั๊กอินก็เป็นเหมือนกับแอปพลิเคชั่นที่นำเสนอโดยเครื่องมือสร้างเว็บไซต์ มันเพิ่มฟีเจอร์พิเศษที่ไม่มีใน WordPress ให้กับเว็บไซต์ของคุณ ยกตัวอย่างเช่น คุณสามารถติดตั้งปลั๊กอินเพื่อสร้างฟอร์มผู้ติดต่อ (เช่น NinjaForms) หรือ สร้างร้านค้าออนไลน์โดยใช้ WooCommerce ไม่ว่าคุณต้องการอะไรบริการก็มีปลั๊กอินของสิ่งนั้นให้คุณ ไม่ว่าจะเป็น SEO หรือการสร้างพอร์ตโฟลิโอออนไลน์

manage your installed plugins in WordPress TH19

ในแผงปลั๊กอินคุณสามารถดูและจัดการปลั๊กอินที่ติดตั้งและเพิ่มใหม่ได้ใช้กล่องค้นหาเพื่อช่วยค้นหาปลั๊กอินที่คุณต้องการ แต่ละปลั๊กอินจะมีข้อมูลต่าง ๆ ที่จำเป็น รวมถึง การใช้งานร่วมกันกับ WordPress ในแต่ละเวอร์ชั่น ฟีเจอร์ที่นำเสนอและรีวิวจากผู้ใช้คนอื่น ๆ

Find and install plugins easily in WordPress TH20

ค้นหาและติดตั้งปลั๊กอินได้อย่างง่ายดายใน WordPressการติดตั้งปลั๊กอินทำได้ในเพียงแค่คลิกเดียว แต่ปลั๊กอินของคุณจะทำงานบนเว็บไซต์ของคุณเมื่อคุณคลิกปุ่ม “เปิดใช้งาน” ในแผงปลั๊กอิน

7. สร้างโพสต์แรกของคุณ

หนึ่งในคำถามที่พบบ่อยที่สุดที่ฉันได้รับเกี่ยวกับ WordPress คือความแตกต่างระหว่างหน้าและโพสต์ โดยพื้นฐานแล้วหน้าต่าง ๆ เป็นเนื้อหาคงที่ – นั่นคือเนื้อหาในเว็บไซต์ของคุณที่ไม่ได้เปลี่ยนแปลงหรือไม่ได้เปลี่ยนบ่อยนัก เช่น หน้าเกี่ยวกับเรา โพสต์จะมีความหลากหลายมากขึ้น – พวกเขาจะปรากฏในหน้า ‘บล็อก’ หรือหน้าหมวดหมู่ของเว็บไซต์ ความแตกต่างที่สำคัญระหว่างหน้าและโพสต์คือวิธีที่ WordPress แสดงผลบนเว็บไซต์ของคุณ

เครื่องมือแก้ไขสำหรับสร้างโพสต์และหน้านั้นเหมือนกัน ดังนั้นกระบวนการสร้างหน้าและโพสต์จึงเหมือนกัน ในภาพสกรีนช็อตด้านล่างคุณจะเห็นว่าเมื่อคุณคลิกที่แผง “โพสต์” ของแดชบอร์ด คุณจะเห็นรายการโพสต์ที่มีอยู่ของคุณ (บางธีมมาพร้อมกับเนื้อหา “ตัวอย่าง”) พร้อมปุ่มเพิ่มใหม่ Add New ที่ด้านบน

The posts panel in WordPress TH21

แผงควบคุมโพสต์ใน WordPressการคลิกปุ่ม Add New เพื่อนำคุณไปสู่เครื่องมือแก้ไข เครื่องมือแก้ไขของ WordPress นั้นไม่ค่อยมีอะไรมาก แต่เวอร์ชัน Gutenberg ที่ใช้กับ WordPress 5.0 พร้อมกับฟีเจอร์ 6.0 ใหม่ ช่วยให้คุณมีความยืดหยุ่นในการปรับแต่งมากขึ้น Gutenberg ใช้ “บล็อก” เพื่อสร้างโพสต์และเพจของคุณ พร้อมด้วยเลย์เอาต์ (คอลัมน์) ส่วนต่าง ๆ และคอนเทนเนอร์

คุณสามารถเพิ่มบล็อกในเครื่องมือแก้ไข Gutenberg ได้โดยใช้ปลั๊กอินฟรีหรือจะติดตั้งเครื่องมือแก้ไขอื่นด้วยปลั๊กอินสำหรับสร้างเว็บไซต์ของบริษัทอื่นก็ได้

Gutenberg block plugins for WordPress

Gutenberg บล็อก ปลั๊กอินขยายคุณสมบัติของเครื่องมือแก้ไข WordPressประเภทของบล็อกที่รวมอยู่ในตัวแก้ไข Gutenberg มาตรฐาน:

  • ย่อหน้า
  • หัวข้อ
  • ข้อความ
  • รูปภาพ
  • รายการ
  • รูปปก
  • แกลลอรี
  • สไลด์โชว์
  • ตาราง
  • ปุ่ม
ในการเลือกบล็อก คุณสามารถคลิกไอคอน “+” ที่ด้านข้างของแต่ละย่อหน้าหรือพิมพ์ “/” ลงในพื้นที่ว่างที่มีข้อความระบุไว้ว่า “เริ่มเขียนหรือพิมพ์/เพื่อเลือกบล็อก”

The post and page editor in WordPress TH23

เครื่องมือแก้ไขโพสต์และหน้าเพจใน WordPress8. เผยแพร่เว็บไซต์ของคุณ

มันต่างจากเครื่องมือสร้างเว็บไซต์บางอย่าง (เช่น Wix) WordPress ไม่มีปุ่ม Publish เฉพาะสำหรับเว็บไซต์ทั้งหมดของคุณ ทันทีที่คุณสร้างเว็บไซต์ WordPress มันจะเผยแพร่บนอินเทอร์เน็ตโดยอัตโนมัติ อย่างไรก็ตามมันมีสามสถานที่แยกต่างหากที่คุณจะพบปุ่ม Publish ใน WordPress

มันคือ:

  • ในเครื่องมือปรับแต่ง ที่คุณจะเห็นปุ่มที่ด้านบนของแผงควบคุมซึ่งจะบันทึกการเปลี่ยนแปลงและทำให้การปรับแต่งของคุณเปลี่ยนแปลงแบบเรียลไทม์
  • ที่ด้านบนขวาของแต่ละโพสต์ใหม่ที่คุณสร้าง หากคุณยังไม่กดเผยแพร่ โพสต์ของคุณจะเป็นเพียงแบบร่างและจะไม่ปรากฏให้เห็นในเว็บไซต์ หากคุณกลับไปภายหลังเพื่อแก้ไข คุณต้องคลิกอัปเดตเพื่อให้การเปลี่ยนแปลงของคุณเป็นจริง
  • ที่ด้านบนขวาของแต่ละหน้าเพจใหม่ที่คุณสร้าง เช่นเดียวกับโพสต์ เนื้อหาของคุณเป็นเพียงแบบร่างจนกว่าคุณจะเผยแพร่และเมื่อคุณทำการแก้ไขคุณต้องคลิกอัปเดต มิฉะนั้นมันจะไม่มีการบันทึกการเปลี่ยนแปลงของคุณ
publishing your website in WordPress TH24

สามที่ที่คุณต้องคลิกเผยแพร่ใน WordPress

หรือจะใช้เงิน $5 ในการสร้างเว็บและประหยัดเวลาและหลีกเลี่ยงความยุ่งยาก

หากคุณมีเวลาไม่มากเวลาหรือไม่ต้องการจัดการกับปัญหาใด ๆ ที่อาจเกิดขึ้นเมื่อสร้างเว็บไซต์ WordPress ให้จ้างมืออาชีพในการสร้าง (และดูแล) เว็บไซต์ของคุณอาจเป็นทางเลือกที่ดีกว่า

การว่าจ้างนักพัฒนานั้นฟังดูอาจมีราคาแพง แต่ด้วยความนิยมที่เพิ่มขึ้นของ Fiverr คุณไม่จำเป็นต้องใช้เงินจำนวนมาก ฉันเพิ่งทำการค้นหา Fiverr อย่างรวดเร็วเพื่อสร้างเว็บไซต์ WordPress และพบว่า สร้างเว็บไซต์ของคุณด้วยราคาแค่ $5!

Low cost web developers on Fiverr TH25

นักพัฒนาเว็บราคาถูกบน Fiverr เพียงแค่ $5หนึ่งในสิ่งที่ดีที่สุดเกี่ยวกับ Fiverr คือคุณสามารถเรียกดูตัวอย่างผลงานของนักออกแบบเพื่อให้มั่นใจว่าพวกเขาทำงานได้เหมาะกับประเภทของเว็บไซต์ที่คุณต้องการหรือไม่ นอกจากนี้ด้วย Fiverr คุณจะได้รับการคุ้มครองอย่างเต็มที่เนื่องจาก Fiverr ไม่ได้ชำระเงินให้แก่ฟรีแลนซ์จนกว่าคุณจะพอใจกับงานของพวกเขา

คำถามที่พบบ่อยของ WordPress

WordPress ฟรีหรือไม่

โดยทางเทคนิคแล้ว ใช่ แพลตฟอร์มให้บริการฟรี 100% แต่คุณจะต้องจ่ายค่าบริการเว็บโฮสติ้งและชื่อโดเมน (คลิกที่นี่เพื่อดูรายการเว็บโฮสติ้งที่ดีที่สุดในปี 2024) หากคุณต้องการธีมหรือปลั๊กอินพรีเมียมจากบุคคลที่สาม คุณจะต้องจ่ายค่าธรรมเนียมสำหรับสิ่งเหล่านี้ด้วย

ฉันสามารถสร้างเว็บไซต์ WordPress ด้วยตัวเองได้หรือไม่

ใช่ คุณสามารถสร้างเว็บไซต์ WordPress ได้โดยไม่ต้องจ้างนักพัฒนา – แต่ถ้าคุณยังไม่มีประสบการณ์การสร้างเว็บไซต์  คุณอาจพบว่า Wix นั้นใช้งานได้ง่ายกว่า (และเร็วกว่า) WordPress มีความซับซ้อนมากกว่าและทำให้การเปลี่ยนแปลงเว็บไซต์ของคุณกลายเป็นเรื่องยุ่งยากเมื่อทำการตั้งค่าหรือติดตั้งปลั๊กอินที่ขัดแย้งกัน

การจ้างนักพัฒนาสำหรับเว็บไซต์ WordPress ของคุณไม่แพงอย่างที่คิด! คุณสามารถ หานักพัฒนาตามงบประมาณใด ๆ ที่คุณมีใน Fiverr

อะไรคือความแตกต่างระหว่าง WordPress.com และ WordPress.org

ความแตกต่างที่สำคัญระหว่าง WordPress.com และ WordPress.org คือวิธีที่พวกเขาโฮสต์เว็บไซต์ ด้วย WordPress.com คุณจะไม่ต้องจ่ายแยกต่างหากสำหรับการโฮสต์ แต่คุณจะต้องอัปเกรดเป็นหนึ่งในแผนราคาสูง (ธุรกิจหรืออีคอมเมิร์ซ) เพื่อใช้ปลั๊กอินและอัปโหลดธีมจากบุคคลที่สาม

WordPress.org เป็นโฮสต์ด้วยตนเอง ดังนั้นคุณจึงต้องจ่ายเงินสำหรับการโฮสต์แยกต่างหาก คุณสามารถควบคุมและได้รับอิสระอย่างสมบูรณ์กับเวอร์ชั่นนี้และมันมีราคาถูกกว่า WordPress.com มาก

Wix หรือ WordPress อะไรดีกว่า

ทั้ง Wix และ WordPress มีข้อดีข้อเสีย Wix เหมาะสำหรับผู้เริ่มต้น แต่มันอาจมีราคาสูงกว่าการซื้อแผนโฮสติ้งและสร้างเว็บไซต์ของคุณด้วย WordPress

WordPress ให้อิสระแก่คุณอย่างมาก และมีตัวเลือกเพิ่มเติมสำหรับการขยายเว็บไซต์ของคุณเมื่อเวลาผ่านไป แต่การเรียนรู้อาจต้องใช้เวลานานกว่าและอาจมีข้อผิดพลาดมากกว่า ตัวอย่างเช่น ปลั๊กอินที่เข้ากันไม่ได้อาจทำให้เว็บไซต์ของคุณหยุดทำงาน

ฉันต้องใช้แผนโฮสติ้ง WordPress พิเศษหรือแผนโฮสติ้งขั้นพื้นฐานก็เพียงพอแล้ว

คุณไม่ต้องใช้แผนโฮสติ้ง WordPress พิเศษเนื่องจาก WordPress สามารถใช้งานบนแชร์โฮสติ้งที่มีเครื่องมือติดตั้งในคลิกเดียว อย่างไรก็ตาม มันมีประโยชน์มากกว่าอย่างแน่นอนเมื่อเลือกแผนโฮสติ้งเฉพาะ WordPress

แผนโฮสติ้งเฉพาะ WordPress สามารถแยกเป็นแบบจัดการหรือไม่จัดการก็ได้ ด้วยแผนการที่ไม่มีการจัดการ การโฮสต์ของคุณจะเหมือนกับโฮสต์ขั้นพื้นฐาน แต่เว็บไซต์ของคุณจะโฮสต์บนเซิร์ฟเวอร์ที่ปรับให้เหมาะสมสำหรับ WordPress และคุณก็สามารถเข้าถึงปลั๊กอินที่มีการเพิ่มประสิทธิภาพบางอย่างได้

การจัดการโฮสติ้ง WordPress เป็นเวอร์ชันที่ไม่มีความยุ่งยากใด ๆ เนื่องจากโฮสต์ของคุณจะดูแลสิ่งต่าง ๆ เช่นการปรับปรุงการรักษาความปลอดภัย (ขึ้นอยู่กับโฮสต์) และการสำรองข้อมูล ดังนั้นคุณจึงสามารถใช้เวลาที่เหลือไปกับการสร้างเว็บไซต์ของคุณได้ ดูรายการบริการจัดการโฮสติ้ง WordPress ที่ดีที่สุดในปี 2024

ทำให้เว็บไซต์ของคุณเหนือไปอีกระดับ

ตอนนี้คุณได้สร้างเว็บไซต์แล้ว ถึงเวลาที่จะต้องทำให้คนรู้จักคุณแล้ว จากประสบการณ์ของฉัน เว็บไซต์ที่คุณสร้างนั้นจะไม่มีวันเสร็จสมบูรณ์ เนื่องจากคุณจะต้องอัปเดต เปลี่ยนแปลงสิ่งต่าง ๆ และทำให้ดีขึ้นได้ตลอดเวลา คุณต้องการให้คนเข้ามาเยี่ยมชมเว็บไซต์ของคุณและมีหลายสิ่งที่คุณสามารถทำได้เพื่อขยายกลุ่มเป้าหมายของคุณและมอบประสบการณ์ที่ดีขึ้นแก่ผู้เข้าชมเว็บไซต์ของคุณ

คุณไม่จำเป็นต้องมีโลโก้ก่อนที่จะเริ่มสร้างเว็บไซต์ แต่โลโก้จะทำให้เว็บไซต์ของคุณดูเป็นมืออาชีพมากขึ้นและช่วยทำให้แบรนด์ของคุณเป็นที่รู้จักได้

โลโก้ของคุณบ่งบอกความเป็นคุณอย่างมาก ดังนั้นการทำให้เหมาะสมกับคุณจึงเป็นสิ่งที่สำคัญมาก การออกแบบนั้นมีบทบาทอย่างมาก – ยกตัวอย่างเช่น คุณเคยคิดถึงผลกระทบของธีมสีที่มีต่อผู้ชมของคุณไหม อ่านเพิ่มเติมเกี่ยวกับสถิติโลโก้ล่าสุดจากรายการ Fortune 500 เพื่อดูข้อมูลเพิ่มเติม

มีสองวิธีในการสร้างโลโก้ด้วยตนเอง – และทั้งสองวิธีนั้นมีราคาไม่แพง เพื่อนร่วมงานของฉันทดสอบบริการออกแบบโลโก้หลัก ๆ ทั้งหมดเพื่อค้นหาโลโก้ใหม่สำหรับ Website Planet หากคุณต้องการอ่านเกี่ยวกับการทดลองของเขาและดูว่าใครได้รับรางวัลให้อ่านการเปรียบเทียบบริการออกแบบโลโก้ออนไลน์ที่ดีที่สุด

1. ทำด้วยตัวคุณเองด้วยโปรแกรมสร้างโลโก้ออนไลน์

วิธีการ DIY อาจฟังดูเป็นวิธีที่ถูกที่สุดในการรับโลโก้ แต่มันก็ไม่ใช่เสมอไป ผู้ผลิตโลโก้ออนไลน์ส่วนใหญ่ให้คุณสามารถลองได้อย่างเต็มที่ แต่คุณจะต้องจ่ายเงินเพื่อดาวน์โหลดและใช้โลโก้ของคุณ มีเครื่องมือสร้างโลโก้ฟรีอยู่สองสามบริการ แต่มันไม่มีอะไรที่พิเศษมากและฉันไม่แนะนำให้ใช้มัน คุณยังตรวจสอบเพื่อดูว่าเครื่องมือสร้างโลโก้ใดมีความสามารถในการแสดงโลโก้ในภาษาไทย

เครื่องมือสร้างโลโก้ DIY ที่ฉันชอบได้แก่ Wix Logo Maker เครื่องมือนี้ใช้ AI (ปัญญาประดิษฐ์) เพื่อสร้างคอนเซปท์โลโก้มากมายตามความต้องการส่วนตัวของคุณ เมื่อคุณพบกับแบบที่คุณชอบ คุณสามารถปรับแต่งทุกอย่างได้ตั้งแต่แบบอักษรไปยังโทนสี คุณสามารถดาวน์โหลดโลโก้ความละเอียดต่ำได้ฟรี เพื่อให้คุณเห็นว่ามันมหน้าตาอย่างไรบนเว็บไซต์และโซเชียลมีเดียของคุณก่อนที่คุณจะทำการซื้อจริง

2. จ้างนักออกแบบ

การจ้างนักออกแบบโลโก้อาจฟังดูแพง – แต่บน Fiverr คุณสามารถได้รับโลโก้ที่ออกแบบจากมืออาชีพในราคาเพียง $5 นักออกแบบบน Fiverr ส่วนใหญ่แสดงตัวอย่างโลโก้ที่พวกเขาสร้างเอาไว้ ทำให้ง่ายต่อการค้นหาคนที่มีสไตล์ที่คุณกำลังมองหาเราได้ทดสอบนักออกแบบโลโก้ของ Fiverr ด้วยตัวเอง และเรารู้สึกประทับใจกับคุณภาพของโลโก้มาก

นอกจากโลโก้ของคุณ คุณจะต้องสร้าง favicon ด้วย – นี่คือภาพขนาดเล็กที่คุณมักเห็นในแท็บเบราว์เซอร์ที่อยู่ถัดจากชื่อเว็บไซต์และในบุ๊คมาร์คของคุณ คุณสามารถสร้าง favicon ในไม่กี่วินาทีด้วยเครื่องมือเครื่องมือสร้าง favicon ที่ยอดเยี่ยมของเรา

เพิ่มประสิทธิภาพเว็บไซต์ของคุณ

แม้ว่าคุณจะสร้างเว็บไซต์ที่ยอดเยี่ยม มันจะไม่ปรากฏในหน้าแรกของหน้าผลลัพธ์การค้นหา (SERP) หากไม่มีการเพิ่มประสิทธิภาพ การเพิ่มประสิทธิภาพเว็บไซต์ของคุณจะเกี่ยวข้องกับการเพิ่มประสิทธิภาพกลไกค้นหา (SEO) การวิเคราะห์ปริมาณการใช้งานของคุณและทำความเข้าใจกับสิ่งที่ผู้ชมของคุณกำลังมองหา

สำหรับ SEO มีเครื่องมือที่ยอดเยี่ยมที่คุณสามารถใช้เพื่อทำให้การเพิ่มประสิทธิภาพนั้นทำได้ง่ายขึ้น หนึ่งในเครื่องมือที่ดีที่สุดที่มีให้คือ SEMrush (ดูคู่มือการใช้ SEMrush เพื่อหาข้อมูลเพิ่มเติม) แต่ก็ยังมีตัวเลือกอื่น ๆ ถ้า SEMrush นั้นแพงกว่างบประมาณของคุณ เราได้รีวิวเครื่องมือ SEO ที่ดีที่สุด เพื่อช่วยให้คุณเลือกเครื่องมือที่เหมาะสม

การสร้างเนื้อหาที่เหมาะสมสำหรับเว็บไซต์ของคุณอาจเป็นเรื่องที่ท้าทาย แต่การใช้เครื่องมือวิเคราะห์เพื่อค้นหาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับผู้ชมของคุณ (ที่ที่พวกเขาอาศัยอยู่ อายุ เพศและอื่น ๆ ของพวกเขา) คุณสามารถปรับเนื้อหาให้เข้ากับผู้ชมของคุณให้ดีขึ้น อ่าน คำแนะนำเกี่ยวกับ Google Analytics ของเราเพื่อดูว่าคุณจะใช้ประโยชน์สูงสุดจากเครื่องมือวิเคราะห์ได้อย่างไร คุณยังสามารถใช้เครื่องมืออย่าง Answer the Public เพื่อค้นหาสิ่งที่ผู้คนกำลังค้นหา อ่าน คำแนะนำ Answer the Public เพื่อดูข้อมูลเพิ่มเติม

เพิ่มจำนวนผู้ชมของคุณด้วยการตลาดผ่านอีเมล

การตลาดผ่านอีเมลเป็นวิธีที่ดีที่สุดในการขยายกลุ่มเป้าหมายของคุณ – และมีเครื่องมือมากมายที่จะช่วยให้คุณประสบความสำเร็จในการทำการตลาดของคุณ

การตลาดผ่านอีเมลมีพลังที่จะทำให้ธุรกิจของคุณเติบโตอย่างรวดเร็ว มันมีอัตราการคลิกผ่าน (CTR) สูงเช่นกัน – ซึ่งสูงกว่าช่องทางโซเชียลมีเดียเช่น Twitter มากถึง 100 เท่า คุณสามารถใช้การตลาดผ่านอีเมลเพื่อเสนอส่วนลดและโปรโมชั่นให้กับลูกค้า สนับสนุนให้พวกเขาแบ่งปันธุรกิจของคุณกับผู้อื่นและเสนอแหล่งข้อมูลฟรีเพื่อให้ผู้เยี่ยมชมลงทะเบียนรับจดหมายข่าวของคุณ

เพื่อให้ได้รับประโยชน์สูงสุดจากการทำการตลาดผ่านอีเมล คุณจะต้องคำนึงถึงความถี่ของอีเมล การใช้อีเมลอัตโนมัติและสิ่งที่ควรใส่ในจดหมายข่าวทางอีเมล เพื่อเคล็ดลับเพิ่มเติมลองดู การรวบรวมสถิติการตลาดทางอีเมลที่สำคัญของเรา

เราได้ทดสอบและรีวิว แพลตฟอร์มการตลาดผ่านอีเมลที่ดีที่สุด ไม่มีเวลาอ่านรีวิวทั้งหมดงั้นหรอ ไม่ต้องกังวลนี่เป็นภาพรวมคร่าว ๆ ของโซลูชันการตลาดผ่านอีเมลที่เราชอบ

  • ActiveCampaign – นี่คือบริการการตลาดผ่านอีเมลที่มีฟีเจอร์ครบถ้วนที่สุด พวกเขาเป็นผู้นำในอุตสาหกรรมด้านระบบอัตโนมัติ มีการผสานรวมมากกว่า 880 รายการและมีเครื่องมือแก้ไขแบบลากและวางที่ดีที่สุดที่เราเคยทดสอบมา ด้วยฟีเจอร์จำนวนมาก อาจทำให้ต้องใช้การเรียนรู้นิดหน่อย แต่ด้วยฐานความรู้ขนาดใหญ่และทีมช่วยเหลือที่เป็นประโยชน์ มันจึงคุ้มค่ากับเวลาของคุณอย่างแน่นอน
  • Sendinblue – นำเสนอการตลาดผ่าน SMS และเครื่องมือการตลาดผ่านอีเมล Sendinblue มีตัวเลือกราคาประหยัดที่ใช้งานง่าย นอกจากนี้ยังมีแผนฟรีให้ใช้งานอีกด้วย คุณสามารถสร้างอีเมลอัตโนมัติ เพิ่มเวิร์กโฟลว์และใช้ตัวเลือกเพื่อ “ส่งในเวลาที่ดีที่สุด”
  • AWeber – นำเสนอเครื่องมือสร้างแคมเปญแบบลากและวางที่ไม่เหมือนใคร AWeber มอบทุกสิ่งที่คุณต้องการสำหรับการตลาดผ่านอีเมลที่ประสบความสำเร็จ ใช้งานได้ง่าย แต่ก็มีฟีเจอร์ที่ซับซ้อน เช่น ฟังก์ชันการทดสอบ A/B และสามารถเชื่อมต่อกับแอปมากกว่า 5,000 แอปด้วย Zapier
  • Constant Contact – ด้วยเทมเพลตอีเมลหลายร้อยแบบให้เลือกและทดลองใช้ฟรี 30 วัน (60 วันหากคุณอยู่ในสหรัฐอเมริกา) Constant Contact เป็นตัวเลือกที่ยอดเยี่ยมและเหมาะอย่างยิ่งสำหรับการสร้างอีเมลอัตโนมัติ และใช้งานได้ง่ายมาก คุณสามารถเริ่มต้นใช้งานได้ทันที
  • Benchmark Email – รองรับการใช้งานในหลายภาษา Benchmark Email เป็นตัวเลือกอันดับแรก ๆ หากภาษาแม่ของคุณไม่ใช่ภาษาอังกฤษ และยังมีแผนบริการฟรี ซึ่งช่วยให้คุณส่งอีเมลได้มากถึง 3,500 ฉบับต่อเดือน เหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้ใช้เริ่มต้น แต่ก็มีเครื่องมือขั้นสูงที่คุณสามารถใช้ได้เมื่อคุณคุ้นเคยกับแพลตฟอร์มมากขึ้น
  • GetResponse – เป็นมากกว่าแพลตฟอร์มการตลาดผ่านอีเมล GetResponse เป็นแพลตฟอร์มอเนกประสงค์ที่รวมการตลาด การจัดการลูกค้าสัมพันธ์ (CRM) และคุณสมบัติการสัมมนาผ่านเว็บเข้าด้วยกัน มีการทดลองใช้ฟรี 30 วันด้วย

สรุป

ฟู่ว! มีข้อมูลมากมายที่เราได้กล่าวถึง สรุปโดยรวมนี่คือประเด็นสำคัญสองสามข้อจากคู่มือนี้เพื่อสร้างเว็บไซต์ของคุณเอง:

  • เครื่องมือสร้างเว็บไซต์เป็นจุดเริ่มต้นที่ดีเมื่อคุณเป็นผู้ใช้เริ่มต้น Wix เป็นหนึ่งในบริการที่มีความยืดหยุ่นมากที่สุดของพวกเขา ที่ให้คุณเริ่มต้นใช้งานด้วยแอพพลิเคชั่นพื้นฐานและขั้นสูงเพิ่มเติมมากมายในภายหลัง
  • WordPress มักถูกมองว่าใช้งานได้ยากกว่าเครื่องมือสร้างเว็บไซต์ แต่มันให้อิสระได้มากกว่า นอกจากนี้ยังเป็นวิธีที่ถูกกว่าในการทำให้เว็บไซต์ของคุณออนไลน์ด้วยแผนบริการเว็บโฮสติ้งราคาประหยัดจำนวนมาก
  • หากคุณไม่มีเวลาสร้างเว็บไซต์ของคุณเอง คุณสามารถ จ้างนักพัฒนาบน Fiverr ในราคาเพียง $5 ใครบอกว่าการทำงานร่วมกับนักพัฒนาเว็บต้องใช้งบประมาณมาก
  • การเผยแพร่เว็บไซต์ของคุณยังไม่ใช่จุดสิ้นสุดของกระบวนการ คุณสามารถเพิ่มประสิทธิภาพและโปรโมทเว็บไซต์ของคุณด้วยเครื่องมือ SEO การวิเคราะห์และการตลาด
ใคร ๆ ก็สามารถสร้างเว็บไซต์ได้และไม่ว่าคุณจะเป็นผู้ใช้เริ่มต้นหรือมีงบประมาณเพียงเล็กน้อย ขอให้สนุกกับการสร้างเว็บไซต์ของคุณ!

อ่านบทความนี้
4.8 ได้รับการโหวตให้คะแนนโดย 128 ผู้ใช้
คุณลงคะแนนแล้ว! ย้อนกลับ
ต้องระบุข้อมูลในฟิลด์นี้ Maximal length of comment is equal 80000 chars ความยาวน้อยที่สุดของความคิดเห็นเท่ากับ 10 ตัวอักษร
มีความคิดเห็นอย่างไร
1 comments
ตอบกลับ
ดูการตอบกลับของ %s
View %s reply
1 avatar
Stang
17 ตุลาคม 2024
สุดยอดค่ะ เป็นบทความที่ประโยชน์มากค่ะ ..............
1 avatar
Stang
17 ตุลาคม 2024
1 avatar
Monika - ทีม WSP
17 ตุลาคม 2024
ด้วยความยินดี! เรารู้สึกตื่นเต้นมากที่ทราบว่าคุณชอบบทความนี้ ขอขอบคุณที่แบ่งปันสิ่งนั้นกับเรา!
1 avatar
Monika - ทีม WSP
17 ตุลาคม 2024
อ่านรีวิวเพิ่มเติม
เราตรวจสอบความคิดเห็นของผู้ใช้ทั้งหมดภายใน 48 ชั่วโมงเพื่อให้แน่ใจว่ามาจากผู้ใช้จริงเช่นคุณ เราดีใจที่คุณพบว่าบทความนี้มีประโยชน์ - เราจะขอบคุณถ้าคุณแบ่งปันให้คนอื่นรู้เกี่ยวกับมัน
Popup final window
แบ่งปันโพสต์บล็อกนี้กับเพื่อนและเพื่อนร่วมงานในตอนนี้:

We check all comments within 48 hours to make sure they're from real users like you. In the meantime, you can share your comment with others to let more people know what you think.

คุณจะได้รับเคล็ดลับและคำแนะนำที่น่าสนใจฬในเชิงลึกเพื่อปรับปรุงประสิทธิภาพเว็บไซต์ของคุณและบรรลุเป้าหมายการตลาดดิจิทัลของคุณ!

เราดีใจมากที่คุณ ��อบ

แบ่งปันให้กับเพื่อนของคุณ!

1 1 1

หรือรีวิวพวกเราได้บน 1

23247
50
5000
4