WordPress.com รีวิว 2024 – มันมีชื่อเสียงเกินตัวหรือเปล่า

1

WordPress.com ยังเป็นตัวเลือกที่ดีอยู่หรือเปล่า

แน่นอน! ใช่แล้ว มาดูกันอย่างละเอียดดีกว่า

โอเค เพื่อตอบคำถามนั้นเราต้องตอบอีกคำตอบนึงก่อน: WordPress เวอร์ชั่นอะไรล่ะ

คุณอาจจะเห็นได้ว่าเอ่ยถึง “WordPress.com” ในส่วนหัวย่อย อย่าสับสนมันกับ  “WordPress” (ในโดเมน “WordPress.org”) ซึ่งเดิมเป็นตัวเป็นระบบการจัดการเนื้อหาที่โฮสต์ตัวเอง (CMS) แบบสแตนด์อโลนที่คุณสามารถติดตั้งบนเซิร์ฟเวอร์โฮสต์ของคุณเองได้ฟรีโดยไม่จำกัดการใช้งาน

WordPress.com เป็นบริการแบบมีค่าใช้จ่ายที่คุณสามารถใช้เว็บไซต์ WordPress โดยไม่ต้องตั้งค่า จัดการเซิร์ฟเวอร์หรือทำอะไรก็ตามในด้านเทคนิคด้วยตัวเอง

ในขณะที่เราอาจเรียก WordPress.com ว่าเป็น “เครื่องมือสร้างเว็บไซต์” — และมันอาจจะใช้ในแบบนั้นได้ — แต่นั่นไม่ใช่แบบนั้น

มันยังเป็นเครื่องมือ CMS ธรรมดา ๆ แต่มันมาพร้อมกับระดับของพลังและความยืดหยุ่นที่ Wix และผู้สร้างเว็บไซต์ดั้งเดิมอื่น ๆ ไม่สามารถให้ได้ อย่างไรก็ตามสำหรับวัตถุประสงค์ของรีวิวนี้ ฉันจะถือว่ามันเป็น “เครื่องมือสร้างเว็บไซต์”

WordPress.com เป็นหนึ่งในการติดตั้ง WordPress Multisite ขนาดใหญ่ซึ่งเป็นเวอร์ชั่นของ WordPress ที่ให้คุณเรียกใช้เว็บไซต์หลายเว็บไซต์ได้ในการติดตั้งซอฟต์แวร์เดียว มันได้รับการดัดแปลงเพื่อการสร้างรายได้และทำให้ผู้ใช้ใหม่สามารถสร้างเว็บไซต์ของตนเองได้ง่ายขึ้น

เมื่อ WordPress.com เปิดตัวในปี 2005 มันอาจเป็นวิธีที่ดีที่สุดในการสร้างบล็อกฟรีและทำงานด้วยความยุ่งยากซับซ้อนน้อยที่สุด ตั้งแต่นั้นมา WordPress ในฐานะ CMS ได้พัฒนาขึ้นและตอนนี้มันถูกใช้เพื่อสร้างเว็บไซต์ทุกประเภทที่คุณสามารถจินตนาการได้ รวมถึงบล็อกแม่ผู้บริสุทธิ์ เว็บไซต์อีคอมเมิร์ซที่ซับซ้อน เครือข่ายสังคมออนไลน์ที่ซับซ้อนและแม้แต่ดาร์กเว็บ

ดังนั้น WordPress.com ซึ่งเป็นซอฟต์แวร์เดียวกันก็สามารถใช้กับเว็บไซต์ประเภทใดก็ได้เช่นกัน

เมื่อรวมตัวเลขทั้ง WordPress.org และ WordPress.com คุณจะเห็นได้ว่าซอฟต์แวร์นี้ทำงานบนพื้นที่หนึ่งในสามของอินเทอร์เน็ต! (หากคุณต้องการทราบเกี่ยวกับอีกสองในสามของอินเทอร์เน็ตมันคือ Joomla, Drupal และรูปภาพของแมว)

คุณสามารถใช้ WordPress (ทุกรุ่น) เพื่อสร้างเว็บไซต์ โบรชัวร์ขนาดเล็กขนาดห้าหน้าพร้อมกับร้านค้าเสริม คุณยังสามารถใช้มันเพื่อสร้างเว็บไซต์ที่มาแทนที่ Facebook ในอนาคตยังได้เลย มันมีตัวเลือกที่ดีกว่าสำหรับตัวอย่างเฉพาะนั้น แต่นั่นคือปริมาณของเนื้อหาที่พวกเขาสามารถจัดการได้หากคุณทำมันอย่างถูกต้อง

ในปี 2018 WordPress.com โฮสต์เว็บไซต์ประมาณ 37.5 ล้านเว็บไซต์และจำนวนนั้นยังคงเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ มันสามารถใช้งานได้ทุกที่ที่ไม่ได้ถูกบล็อกและรองรับหลายภาษา (บางภาษาที่ฉันไม่รู้จักด้วยซ้ำ) มีแผนบริการฟรี แผนราคาถูก แผนธุรกิจและอีคอมเมิร์ซที่มีราคาไม่แพง

แต่ WordPress.com จะเหมาะกับคุณหรือเปล่า มันจะสามารถทำตามความต้องการที่เฉพาะเจาะจงของคุณได้หรือเปล่า คุณเป็นหนึ่งในสามนั้นหรือเปล่า นั่นแหละคือจุดประสงค์ของรีวิว WordPress นี้ใช่มั้ย ไปดูกันเลย

ในตอนนี้พวกเขานำเสนอธีมสำหรับธุรกิจด้วยนะ

WordPress.com มีธีมให้เลือกกว่า 250 ธีม (ผู้สร้างรายอื่นเรียกว่า “เทมเพลต”) และมีความหลากหลายมากกว่าผู้ให้บริการรายอื่น ๆ เมื่อ WordPress เริ่มต้นจากการเป็นผู้ให้บริการแพลตฟอร์มบล็อก ธีมส่วนใหญ่จะเน้นไปในแนวบล็อก แต่มีการเพิ่มธีมที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจมากขึ้นเมื่อเร็ว ๆ นี้ แต่ไม่ใช่ทุกธีมจะสามารถใช้ได้ในแผนฟรีนะ

จำนวนสิ่งที่คุณสามารถกำหนดค่าได้นั้นขึ้นอยู่กับจากสองสิ่ง: โดยตัวเลือกการปรับแต่งของแต่ละธีมที่คุณใช้และจำนวนเงินที่คุณยินดีจ่ายด้วย

“การปรับแต่งการออกแบบขั้นสูง” (ซึ่งรวมถึงความสามารถในการแก้ไขไฟล์ CSS โดยตรง) มีให้เฉพาะในแผนระดับพรีเมียมเท่านั้น แต่บางทีธีมพื้นฐานก็น่าจะดีพอสำหรับคุณ เนื่องจากเป็นธีมที่มีคุณภาพสูงและตอบสนองได้บนมือถือเกือบทั้งหมด

ธีมเหล่านั้นไม่ได้แค่มีนหน้าตาน่ารักเท่านั้น มันยังสามาารถทำงานได้บน WordPress เหมือนที่ปลั๊กอินสามารถทำได้ ดังนั้นจึงมีธีมที่มีคุณสมบัติขั้นสูงที่น่าสนใจรวมถึงวิธีการใหม่ในการใช้งานผ่านโพสต์ การลงทะเบียนสมาชิกเว็บไซต์ แบบฟอร์มการติดต่อและสิ่งอื่น ๆ

อย่างที่ได้บอกไปแล้วว่าเทมแพลตส่วนใหญ่ (200+) นั้นเน้นไปในแนวบล็อก หรืออย่างน้อยก็มีฟีเจอร์บล็อก คุณจะพบ 26 หมวดหมู่ซึ่งเรียกว่า “หัวข้อ” ใน UI ไม่น่าแปลกใจที่หมวดหมู่ทั่วไป เช่น “ธุรกิจ” ให้ผลการค้นหาคุณมากกว่า (100+) มากกว่าหมวดหมู่เฉพาะเช่น “สมุดภาพ” (20+)

ต่อไปนี้คือหน้าตาของเทมเพลต “สมุดภาพ” เผื่อคุณอยากรู้
ตัวเลือกตัวกรองอื่น ๆ รวมถึงฟีเจอร์ของธีม (เช่น ประวัติผู้แต่งและแถบเลื่อนโพสต์) เลย์เอาต์ที่แตกต่างและสไตล์ (เช่น ศิลปะ มินิมัลลิสต์และสีสัน) โดยรวมแล้วมันเป็นตัวเลือกที่ยอดเยี่ยม แม้ว่าไลบารีธีมควรจะเพื่อธีมที่ไม่ได้ใช้สำหรับบล็อกก็ตาม

หากคุณชำระเงินสำหรับแผนธุรกิจหรือสูงกว่านั้น คุณสามารถติดตั้งธีมของบุคคลที่สามได้ เช่นจาก ThemeForest, TemplateMonster หรือตลาดธีม WordPress อื่น ๆ ตรงนี้หมายความว่า WordPress มีความหลากหลายของธีมที่มีศักยภาพมากกว่า CMS อื่น ๆ

เพิ่มจำนวนผู้เข้าชมด้วย WordPress.com

แพลตฟอร์มนี้เริ่มต้นจากการเป็น ระบบจัดการเนื้อหาสำหรับบล็อก (CMS) คุณจะมีโพสต์ที่หลากหลาย (ด้วยเครื่องมือแก้ไข blockแบบใหม่), หน้าเพจ, เครื่องมือสำหรับจัดเรียงหน้าโพสต์และหน้าเพจ, ความคิดเห็น, ผู้เขียนหลายคนและอื่น ๆ อีกมากมาย

คุณสามารถสร้างบล็อกแบบใดก็ได้ตามที่คุณต้องการหรือเว็บไซต์ธุรกิจธรรมดา ๆ ที่มีธีมและการใช้งานแบบธรรมดา และใช่ คุณสามารถเพิ่มโดเมนที่มีอยู่แล้วลงในเว็บไซต์ของคุณได้ด้วย

และยังมีปลั๊กอิน ซึ่งให้คุณสามารถเปลี่ยนเว็บไซต์ได้ในแบบที่คุณต้องการ ตัวอย่างเช่น คุณสามารถเพิ่ม SEO ให้มากขึ้นและคุณสามารถสร้างเว็บไซต์โซเชียลมีเดียได้ และใช่ คุณสามารถอัพโหลดและติดตั้งปลั๊กอินของบุคคลที่สาม

น่าเสียดายที่ปลั๊กอินของ WordPress นั้นมีให้ใช้แค่ในแผนธุรกิจเท่านั้น แต่ฉันยังคิดว่ามันคุ้มค่าสำหรับการใช้งานและความยืดหยุ่นที่มากขึ้นที่พวกเขานำเสนอ

จากที่เห็นความสามารถของคุณสมบัติที่ WordPress.com นำเสนอ เห็นได้ชัดเลยว่าพวกเขาเป็นเครื่องมือสร้างเว็บไซต์ที่ดีที่สุด

แต่มากไปกว่านั้น WordPress.com อยากให้คุณอยู่กับพวกเขาและสร้างธุรกิจกับบริการของพวกเขา นี่จึงเป็นเหตุผลที่พวกเขานำเสนอฟีเจอร์ที่ยอดเยี่ยมเหล่านี้ (และทุกอย่างที่ WordPress.com ไม่สามารถทำได้ ปลั๊กอินสามารถทำแทนได้หมด):

เครื่องมือสร้างร้านค้า

ตราบใดที่คุณอยู่ในอเมริกาหรือแคนนาดาและใช้แผนธุรกิจหรือสูงกว่านั้น คุณสามารถสร้างร้านค้าด้วยเว็บไซต์ WordPress.com  ภาษีนั้นจะถูกคำนวนอย่างอัตโนมัติและคุณสามารถรับการชำระเงินผ่าน PayPal หรือ Stripe และช่องทางออฟไลน์ผ่านเช็คหรือเงินสดเก็บเงินปลายทาง มีการสนับสนุนคูปองและรีวิวผลิตภัณฑ์ให้อีกด้วย

หากคุณอาศัยอยู่ในประเทศอื่น คุณสามารถติดตั้งปลั๊กอินอีคอมเมิร์ซใดก็ได้ที่คุณต้องการ แต่คุณจะต้องตั้งค่าการชำระเงินด้วยตัวคุณเอง

เครื่องมือการตลาดและการวิเคราะห์

WordPress นำเสนอเครื่องมือที่ช่วยเพิ่ม SEO, สร้างแบรนด์ของคุณ, วัดการเข้าใช้งานเว็บไซต์ของคุณและแบ่งปันบล็อกโพสต์บนโซเชียลมีเดีย พวกเขาไม่ได้นำเสนอเครื่องมือขั้นสูงอะไรหากคุณใช้งานหากคุณใช้งานแผนฟรี แต่คุณต้องการที่ใดซักที่ในการเริ่มต้นใช่มั้ยล่ะ

คุณยังได้รับการบูรณาการกับMailchimpฟรี หากคุณต้องการใช้ผู้ใช้งานสมัครใช้งานจดหมายข่าวจากเว็บไซต์ของคุณ

สร้างรายได้ได้อย่างง่ายดาย

ตั้งแต่แผน Personal ขึ้นไป คุณสามารถรับการชำระเงินแบบสมาชิกสำหรับเนื้อหาของคุณ มันเป็นเรื่องง่ายและมันง่ายกว่าการตั้งค่าบัญชี Patreon เสียอีก หากคุณอัพเกรดเป็นแผนพรีเมี่ยมหรือสูงกว่าคุณสามารถเริ่มวางโฆษณาบนเว็บไซต์ของคุณด้วยความยุ่งยากน้อยที่สุด

การบูรณาการบุคคลที่สาม

WordPress.com รองรับการบูรณาการบริการบุคคลที่สามกับบริการจำนวนมากโดยเน้นเฉพาะ Google Analytics และ GSuite WordPress ดูเหมือนจะเป็นพันธมิตรกับ Google  แต่เมื่อคุณเพิ่มปลั๊กอินจากหลาย ๆ ผู้ให้บริการ นั่นแหละคือเวลาที่เรื่องปวดหัวเกิดขึ้นเพราะมีปลั๊กอิน WordPress สำหรับการบูรณาการรวมเว็บไซต์ของคุณเข้ากับบริการใดก็ตามที่มี API

ต้องใช้เวลาเรียนรู้นิดหน่อย

นี่คือข้อดีและข้อเสียของ WordPress  WordPress ถูกออกแบบมาให้ใช้งานได้ง่าย — ตราบใดที่คุณพอมีความรู้เกี่ยวกับการจัดการเว็บไซต์มาบ้าง

หากคุณไม่เคยสร้างเว็บไซต์มาก่อน มันอาจต้องใช้เวลาเรียนรู้นิดหน่อย และหากคุณต้องการแก้ไข CSS และติดตั้งปลั๊กอินบุคคลที่สามนั่นแหละที่จุดที่ความซับซ้อนเริ่มเกิดขึ้น

หากคุณต้องการแค่สร้างเว็บไซต์โบรชัวร์ขนาด 5 หน้า เครื่องมือสร้างเว็บไซต์อื่น ๆ อาจจะเหมาะสำหรับคุณ หากคุณต้องการอะไรที่มีความซับซ้อนมากกว่านี้ การเรียนรู้สิ่งที่นำเสนอในนี้นั้นคุ้มค่าอย่างแน่นอน

แต่สิ่งที่สำคัญ ๆ นั้นใช้เวลาเรียนรู้เพียงแค่แป๊บเดียวเท่านั้น:

เครื่องมือแก้ไขเนื้อหา

WordPress เคยมีเครื่องมือเขียนแล้วกดเผยแพร่และมันก็ใช้งานได้ดีในยุคนั้น

ในปัจจุบันนี้ — และหลังจากดราม่ามากมายหลังจากการเผยแพร่ต่อสาธารณะในครั้งแรก — เครื่องมือแก้ไขใหม่ของ WordPress มีชื่อใหม่ว่า: “Gutenberg” (ตามภาพด้านบน)

มันเป็นเครื่องมือแก้ไขเนื้อหาที่ปฏิบัติทุกย่อหน้า ทุกหัวเรื่อง ทุกภาพ – ทุกอย่าง!  – เป็นเหมือนกับ “บล็อก” ของแต่ละรายการ มันเป็นเหมือนกับเครื่องมือสร้างหน้าเพจ แต่ว่ามีไว้สำหรับเนื้อหา

มันช่วยให้คุณทำการเปลี่ยนแปลงเนื้อหาในบล็อกที่คุณต้องการ ตัวอย่างเช่น คุณสามารถเปลี่ยนขนาดตัวอักษรในย่อหน้าใดย่อหน้าหนึ่ง สร้างคอลัมน์ที่หลากหลายสำหรับข้อความและ/หรือรูปภาพ เพิ่มรูปภาพพื้นหลังให้กับส่วนใดส่วนหนึ่งและอื่น ๆ อีกมากมาย

Gutenberg นั้นตั้งค่าให้ใช้งานเป็นค่าเริ่มต้นและยังให้คุณสามารถฝังวิดีโอลงไปในแพลตฟอร์มที่หลากหลาย ทวีต โพสต์ใน Reddit รูปภาพใน Instagram ที่มีรูปภาพของแมวและอาหารของคุณ — อะไรก็ตามที่คุณนึกออก

โอ้ และในเมื่อทุกอย่างนั้นถูกสร้างมาแบบ “บล็อก” คุณสามารถวางและวางรูปภาพ ย่อหน้าหรือชิ้นส่วนอื่น ๆ ของหน้าเพจหรือโพสต์ได้ทุกที่ตามที่คุณต้องการได้อย่างง่ายดาย

(Google Docs ควรจะเรียนรู้จากสิ่งนี้นะ)

โดยรวมแล้วมันใช้งานได้ง่ายมากและมันให้ความยืดหยุ่นในด้านดีไซน์ (และที๋ฉันพูดถึง “ดีไซน์” ฉันหมายถึงการทำให้โพสต์และหน้าเพจของคุณดูสวยงามและแตกต่างจากของคนอื่น ๆ )

กลับมาเม้าท์มอยกันต่อ: การเปิดตัวของ Gutenberg ทำให้เกิดเรื่องดราม่าขึ้นเพราะว่าในขณะที่การประกาศเปิดตัวของ WordPress นั้นให้ผู้ใช้งานมีเวลามากมายเพื่อเตรียมพร้อมกับการเปลี่ยนแปลง แต่ผู้ใช้หลายคนก็พบว่าพวกเขายังไม่ได้เตรียมตัว ให้พร้อมดีเมื่อมันเปิดตัว

Gutenberg นั้นแตกต่างจากเครื่องมือแก้ไขเนื้อหาอันอื่น ๆ และมันอาจทำให้เว็บไซต์ WordPress เก่า ๆ นั้นเจ๊งได้เลย แต่มันขึ้นอยู่กับธีมและปลั๊กอินที่พวกเขาใช้ Gutenberg เวอร์ชั่นแรก ๆ นั้นปล่อยมาพร้อมกับบัคมากมายและคนส่วนใหญ่พบว่ามันยังไม่เรียบร้อยดีที่จะเป็นเวอร์ชั่น “ตัวเต็ม”

แต่โชคดีแต่ฉันไม่พบเจอปัญหากับการใช้งานมันเลยตราบใดที่คุณเริ่มสร้างเว็บไซต์ใหม่ “ศูนย์” คุณก็ไม่ควรจะพบเจอปัญหาใด ๆ Gutenberg ได้มีการอัพเดทมากมายหลายครั้งเพื่อทำให้มันสเถียรขึ้นและมันดีขึ้นในทุก ๆ เวอร์ชั่นของ WordPress

และหากคุณต้องการ คุณสามารถปิดการใช้งานมันได้ผ่านผลั๊กอินหากคุณต้องการกลับไปพิมพ์แล้วกด “เผยแพร่” เหมือนเดิม

การปรับแต่งธีม

ในขณะที่ WordPress ไม่ได้นำเสนอเครื่องมือดีไซน์แบบลากและวางเหมือนผู้ให้บริการรายอื่น ๆ เช่น Wixแต่พวกเขาให้คุณสามารถดูตัวอย่างการแก้ไขธีมของคุณได้แบบเรียลไทม์

สิ่งที่คุณสามารถกำหนดเองได้นั้นขึ้นอยู่กับธีมที่คุณใช้ แต่ถ้าคุณเปลี่ยนสีของลิงค์ ย้ายวิดเจ็ตไปยังตำแหน่งอื่นหรือเลือกเลย์เอาต์ที่แตกต่างไปจากเดิมคุณสามารถดูตัวอย่างมันได้ก่อนที่จะเผยแพร่ มันแย่มากที่คุณไม่สามารถเขียนโพสต์บล็อกของคุณด้วยวิธีนี้

หากคุณต้องการประสบการณ์การออกแบบแบบลากและวางด้วย WordPress คุณสามารถติดตั้งปลั๊กอินเช่น Elementor (ถ้าคุณอัพเกรดเป็นแผนธุรกิจหรือสูงกว่า) Elementor เป็นปลั๊กอินธีมที่สามารถใช้งานได้บน WordPress ทำงานเหมือนเครื่องมือสร้างเว็บไซต์แบบลากและวาง

เครื่องมือการจัดระเบียบและการเผยแพร่

เครื่องมือสำหรับการจัดตารางเวลาการเผยแพร่ จัดหมวดหมู่และจัดระเบียบโพสต์ของคุณและการจัดลำกับการวางหน้านั้นเป็นเรื่องง่ายพอสมควร เมื่อคุณรู้ว่ามันอยู่ที่ไหน

WordPress เป็นระบบที่ออกแบบมาเพื่อจัดการกับเนื้อหาจำนวนมากในครั้งเดียว ดังนั้นสิ่งที่มันจึงทดแทนการขาดความสามารถในการลากและวาง ฉันสามารถบอกคุณได้จากประสบการณ์เลยหากคุณต้องเผยแพร่เนื้อหาจำนวนมากเป็นประจำ มันเป็นสิ่งที่ยอดเยี่ยมมาก

โดยรวมแล้ว แม้ว่าจะต้องใช้การเรียนรู้ WordPress.com แต่มันก็ทำได้ไม่ยาก หากคุณเป็นผู้ใช้ใหม่ พวกเขานำเสนอข้อความแนะนำการใช้งานมากมายและป๊อปอัปเคล็ดลับที่จะช่วยคุณเริ่มต้นใช้งานได้

เมื่อคุณรู้ว่าทุกอย่างอยู่ในเมนูการนำทาง งานต่าง ๆ เช่น การเพิ่มหน้าใหม่ปรับแต่งธีมของคุณและอื่น ๆ นั้นสามารถทำได้อย่างง่ายดาย เพียงแค่อ่านคำแนะนำ การสร้างเว็บไซต์บน WordPress.com นั้นทำได้ง่ายกว่าที่คิดไว้

และการตั้งร้านค้ายังทำได้อย่างง่ายดายอีกด้วย แต่อีกครั้ง ตัวเลือกนี้ใช้งานได้ง่ายในกรณีที่คุณอาศัยอยู่ในสหรัฐอเมริกาหรือแคนาดา ปลั๊กอินบุคคลที่สามเช่น WooCommerce นั้นมีความซับซ้อนมากกว่า แต่หากคุณไม่เคยสร้างเว็บไซต์หรือร้านค้าออนไลน์ คุณจะต้องใช้เวลาในการเรียนรู้พอสมควร

การสนับสนุนที่ว่องไวและเป็นประโยชน์

นี่คือสิ่งที่คุณจะไม่พบในรีวิว WordPress.com มากมาย:การพูดคุยกับตัวแทนฝ่ายบริการลูกค้าเพื่อดูว่าการสนับสนุนดีเพียงใด นั่นคือสิ่งที่ฉันต้องการทดสอบและฉันก็ค่อนข้างพอใจ

แต่ก่อนที่เราจะเจาะลึกไปมากกว่านี้ WordPress.com มีตัวเลือกการสนับสนุนค่อนข้างน้อย สำหรับผู้ใช้ทุกคน – รวมถึงผู้ใช้งานแผนฟรี – คุณจะได้รับฐานความรู้ที่เต็มไปด้วยบทความและแม้แต่วิดีโอการสอนเพื่อช่วยให้คุณเริ่มต้นได้ หากคุณไม่สามารถหาสิ่งที่ต้องการได้ให้ตรวจสอบฟอรั่มสนับสนุน

แผน Blogger ยังช่วยให้คุณสามารถเข้าถึงการสนับสนุนทางอีเมล์และทุกแผนข้างต้นสามารถใช้บริการการไลฟ์แชทตลอด 24 ชั่วโมงทุกวัน

คำวิจารณ์อย่างเดียวของฉันคือถ้าคุณอยู่ในแผนที่ให้การสนับสนุนทางอีเมล์และการไลฟ์แชทสด “ติดต่อเรา” ในส่วนช่วยเหลือจะไม่นำเสนอตัวเลือกทั้งสอง คุณจะถูกส่งตรงไปยังไลฟ์แชทและคุณจะไม่พบที่อยู่อีเมล์ของแผนกช่วยเหลือ ฉันต้องถามมันในการพูดคุยในไลฟ์แชท ฉันต้องติดต่อฝ่ายสนับสนุนเพื่อที่จะติดต่อฝ่ายสนับสนุน

ฟอรั่มสนับสนุน

ฟอรั่มนี้เรียบง่ายแต่ใช้งานได้ดี โดยรวมแล้วดูเหมือนว่าทีมสนับสนุนจะให้การติดต่อกลับที่รวดเร็ว ภายในประมาณหนึ่งชั่วโมง

คำตอบส่วนใหญ่มากจากคอมมูนิตี้ ไม่ใช่ทีมงาน ซึ่งก็พอเข้าใจได้ว่าพวกเขามีอะไรหลายอย่างต้องไปทำ ผู้ดูแลเว็บไซต์ตอบคำถามของฉันภายในหนึ่งชั่วโมงและคำตอบนั้นเป็นประโยชน์มาก

ได้โปรดมองข้ามชื่อผู้ใช้งานที่ฉันสมัครเอาไว้เมื่อตอนเป็นวัยรุ่นด้วยเถอะ

ไลฟ์แชท

ฉันถามคำถามตอน 10:45pm เวลาจาก Mexico City และได้รับคำตอบภายในหนึ่งชั่วโมง คำตอบที่ได้รับมันครุมเครือนิดหน่อยแต่ฉันไม่ได้ซักไซ้รายละเอียดต่อ

ฉันไม่มั่นใจว่าพวกเขามีนโยบายเกี่ยวกับแบนด์วิธหรือเปล่า พวกเขาตอบกลับว่า “ไม่มีการจำกัดเหล่านั้น” มันฟังดูดีแต่ฉันไม่สามารถทดสอบมันได้ว่าจริงหรือเปล่า

สิ่งที่ยอดเยี่ยมอย่างนึงก็คือคุณจะได้รับอีเมล์ประวัติการสนทนาเมื่อคุณจบการสนทนาแล้ว มันดีเสมอที่มีการบันทึก

การสนับสนุนทางอีเมล์

การสนับสนุนทางอีเมล์นั้นเป็นประโยชน์มาก ฉันถามว่ามีวิธีในการสร้างร้านค้าไหม หากฉันไม่ได้อยู่ในอเมริกาและแคนาดา ตัวแทนฝ่ายสนับสนุนตอบมาพร้อมคำแนะนำในการตั้งค่าร้านค้าที่ง่ายดาย  เธอพยายามขายของให้ฉันนิดหน่อย แต่แผนอัพเกรดนั้นทำให้ทุกอย่างง่ายขึ้นจริง ๆ ดังนั้นฉันโทษเธอไม่ได้ที่พยายามขายของ

ฉันส่งอีเมล์ในเวลาดึก (สำหรับฉัน) และฉันได้รับอีเมล์ตอบกลับภายใน 3 ชั่วโมงให้หลัง พวกเขาบอกเอาไว้ว่าการสนับสนุนทางอีเมล์มีให้บริการตลอด 24/7 ฉันไม่สามารถหาตารางเวลาเฉพาะที่ได้เลย แต่พวกเขาก็พยายามตอบกลับภายใน 24 ชั่วโมงนะ

โดยรวมแล้วฉันพูดได้ว่าเมื่อเทียบกับผู้สร้างเว็บไซต์อื่น ๆ  WordPress มีตัวเลือกการกำหนดราคาที่ถูกกว่ามาก

ตัวเลือกการชำระเงินรวมถึง:

• Visa
• Mastercard
• American Express
• Discover
• PayPal

แผนฟรีนั้นเรียบง่าย: คุณจะได้รับบล็อกที่สามารถใช้งานได้ มันมาพร้อมกับพื้นที่เก็บข้อมูล 3GB การเข้าถึงชุดรูปแบบฟรีจำนวนมากและการสนับสนุนผ่านคอมมูนิตี้ WordPress จะวางโฆษณาบนเว็บไซต์ของคุณ แต่มันเป็นเพียงลิงค์ข้อความในส่วนท้ายที่บอกว่า “นี่คือเว็บไซต์ WordPress.com”

คุณไม่สามารถอัปโหลดธีมของคุณเองหรือติดตั้งปลั๊กอินได้ และคุณไม่สามารถสร้างรายได้จากเว็บไซต์ของคุณ อย่างน้อยก็ไม่ได้ในลักษณะที่แพลตฟอร์มสนับสนุน

คุณจะได้รับการอัพเกรดอะไรบ้าง แผนการที่ถูกที่สุดนำเสนอการสนับสนุนพิเศษและชื่อโดเมน โอ้ แล้วก็ไม่มีโฆษณา WordPress.com และคุณสามารถสร้างรายได้จากเว็บไซต์ของคุณเพียงด้วยการสมัครรับข้อมูล

หากคุณอัพเกรดเป็น WordPress VIP มันจะแตกต่างอย่างสิ้นเชิง คุณสามารถเข้าถึงปลั๊กอินธีมเพิ่มเติม (และธีมของบุคคลที่สาม) การปรับแต่งขั้นสูง ความสามารถในการวางโฆษณาที่รองรับ WordPress.com บนเว็บไซต์ของคุณและความเป็นคุณที่มากขึ้น นอกจากนี้คุณยังจะได้รับเครื่องมือ SEO วิธีการสร้างรายได้จากเว็บไซต์ของคุณเพิ่มเติม ความสามารถในการรับชำระเงินจากกว่า 60 ประเทศและอีกมากมาย

คุณควรอัพเกรดหรือไม่ เมื่อไหร่ที่คุณควรอัพเกรด

คำแนะนำที่ซื่อสัตย์ก็คือ: สร้างเว็บไซต์ของคุณก่อนและดูว่าคุณชอบแพลตฟอร์มนี้หรือเปล่า! การใช้เวลาในการเรียนรู้ที่ฉันพูดถึงนั้นทำให้คนถอดใจไปมากมาย

เมื่อคุณมีความสุขกับเว็บไซต์ธรรมดา ๆ ของคุณ ซื้อแผนที่ให้การสนับสนุนเพิ่มเติมและโดเมน การอัพเกรดนั้นง่ายมาก มันยังทำได้รวดเร็วอีกด้วย แค่ระวังไว้ก็พอเพราะว่าราคานั้นแสดงไว้ในแบบรายเดือน คุณไม่สามารถจ่ายรายเดือนได้ คุณสามารถชำระขั้นต่ำได้รายปี

การยกเลิก & ขอเงินคืน

คุณสามารถยกเลิกแผนใด ๆ ภายใน 30 วันเพื่อรับเงินคืนเต็มจำนวน ยกเว้นข้อยกเว้นเพียงเล็กน้อย: โดเมน หากคุณซื้อโดเมนคุณสามารถยกเลิกการสมัครสมาชิกของคุณ แต่คุณต้องทำภายใน 48 ชั่วโมง พวกเขามีนโยบายที่ใจดีกว่าผู้ให้บริการรายอื่น ๆ ที่ฉันเคยเห็นมาอีกนะ

กระบวนการยกเลิกเป็นไปโดยอัตโนมัติ ดังนั้นคุณไม่จำเป็นต้องรอให้มีคนอนุมัติการคืนเงินของคุณ (เท่าที่ฉันรู้) และที่ดีกว่านั้นคุณไม่ต้องคุยกับมนุษย์ซึ่งเป็นส่วนที่น่าอึดอัดที่สุดในการยกเลิกบริการ คุณจะถูกถามคำถามสองสามคำถามผ่านแบบฟอร์มเพื่อดูว่าคุณจะเปลี่ยนใจหรือไม่ แต่มันก็ไม่ได้แย่เกินไป

ฉันได้รับเงินคืนภายในเวลาไม่กี่นาที ตราบใดที่คุณยกเลิกภายในระยะเวลาที่ถูกต้อง คุณควรจะได้รับเงินคืนอย่างรวดเร็วและราบรื่น

แค่กดปุ่มเท่านั้นเอง