เนื้อหาในบทความ
1. เทมเพลต
GoDaddy ไม่สามารถสู้การออกแบบที่มีสไตล์ของ Squarespace ได้
Squarespace ให้คุณเลือกเทมเพลตที่แตกต่างกันมากกว่า 80 แบบ โดยแบ่งออกเป็น 14 หมวดหมู่ ซึ่งครอบคลุมทุกอุตสาหกรรม ตั้งแต่บล็อกและพอร์ตโฟลิโอ ไปจนถึงร้านค้าออนไลน์และร้านอาหาร เมื่อคุณเลือกเทมเพลตของคุณแล้ว คุณสามารถปรับเปลี่ยนได้ตามที่คุณต้องการ – Squarespace นำเสนอระดับการปรับแต่งที่มากกว่าเครื่องมือสร้างเว็บไซต์ส่วนใหญ่ คุณยังสามารถเปลี่ยนไปใช้เทมเพลตที่ตั้งค่าไว้ล่วงหน้า (เวอร์ชัน 7.0) ได้ หากต้องการทำการเปลี่ยนแปลงหลายอย่าง แบบทั้งหมดตอบสนองต่ออุปกรณ์เคลื่อนที่และมันสวยงามมาก: สะอาด มีสไตล์และทันสมัย มีความเป็นมินิมัลลิสต์เหมือน Apple ซึ่งนี่เป็นสิ่งที่ผู้ใช้ Squarespace รู้จักกันดี GoDaddy นั้นก็นำเสนอดีไซน์มินิมอลแบบเดียวกัน เทมเพลตที่ตอบสนองต่ออุปกรณ์เคลื่อนที่กว่า 300 แบบ ซึ่งแบ่งออกเป็น 13 หมวดหมู่เพื่อให้ครอบคลุมอุตสาหกรรมต่าง ๆ ทุกประเภท คุณยังสามารถเปลี่ยนไปใช้เทมเพลตใหม่ได้ตลอดเวลา แม้ว่าคุณจะเริ่มแก้ไขแล้วก็ตาม นอกเหนือจากนั้นการควบคุมการเปลี่ยนแปลงนั้นค่อนข้างมีขีดจำกัด คุณสามารถเปลี่ยนขนาดตัวอักษรและแบบอักษรและแก้ไขปุ่มและธีมสีของคุณได้ แต่มันก็แค่นั้น ความสามารถในการปรับแต่งที่จำกัดนี้ถือเป็นข้อเสียเปรียบที่สำคัญอย่างหนึ่ง เนื่องจากดีไซน์ของ GoDaddy นั้นไม่ได้ดูเป็นมืออาชีพเหมือนกับ Squarespace เป็นการยากที่จะระบุว่าเพราะอะไร แต่มันดูถูกกว่า อย่างไรก็ตาม Squarespace ได้คะแนนในตรงนี้ไป2. ฟีเจอร์และความง่ายในการใช้งาน
GoDaddy ใช้งานได้ง่ายกว่า แต่ Squarespace นำเสนออะไรที่มากกว่า
ไม่ว่าความคิดเห็นของคุณเกี่ยวกับเทมเพลตจะเป็นอย่างไร แต่ GoDaddy นั้นใช้งานได้ง่ายจริง ๆ มีเครื่องมือแก้ไขแบบชี้และคลิกที่ใช้เรียบง่าย พร้อมแถบเครื่องมือที่ใช้งานง่าย ผู้ใช้เริ่มต้นยังสามารถใช้ ADI (Artificial Design Intelligence) เพื่อช่วยให้คุณเริ่มต้นสร้างเว็บและทำให้เว็บไซต์ของคุณมีที่ว่างน้อยลง ขึ้นอยู่กับประเภทของเว็บไซต์ที่คุณกำลังสร้าง AI จะเลือกธีมสำหรับคุณและยังทำการเพิ่มรูปภาพในคลังและข้อความพื้นฐานให้ด้วย นอกจากนี้อินเทอร์เฟซผู้ใช้ของเครื่องมือแก้ไขยังมีให้บริการในภาษาไทย ซึ่งทำให้กระบวนการทั้งหมดง่ายและราบรื่น เมื่อพูดถึงการเพิ่มส่วนใหม่ GoDaddy มีบล็อกเนื้อหาหลายร้อยประเภทให้เลือก (บางส่วนมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม) รวมถึงรูปภาพ, การผสานรวมกับโซเชียลมีเดีย, แบบฟอร์มการติดต่อ, บัตรของขวัญและการจอง โดยจะแบ่งออกเป็น 25 หมวดหมู่ต่างๆ นอกจากนี้ยังมีเครื่องมือทางธุรกิจที่มีประโยชน์มากมายสำหรับ SEO, การตลาดและโซเชียลมีเดีย แอพพลิเคชั่นของ GoDaddy ช่วยให้คุณสามารถแก้ไขเว็บไซต์ได้ทุกที่ทุกเวลา มันเป็นสิ่งที่เครื่องมือสร้างเว็บไซต์หลายรายไม่ได้นำเสนอ ในทางกลับกันเครื่องมือแก้ไขของ Squarespace นั้นต้องใช้เวลาเรียนรู้การใช้งานสักพัก เครื่องมือแก้ไข WYSIWYG แบบกำหนดเองนั้นให้ความรู้สึกที่ใช้งานง่ายน้อยกว่าเครื่องมือแก้ไขของ GoDaddy แต่ก็ไม่ได้หมายความว่ามันใช้งานได้ยากมาก เมื่อคุณทำความเข้าใจมันแล้ว การใช้งานฟีเจอร์ที่มีให้บริการนั้นง่ายพอสมควร ตั้งแต่เมนูอาหารและแบบฟอร์มการติดต่อ ไปจนถึงฟีด RSS ฟีดโซเชียลมีเดีย การตั้งเวลานัดหมายและผลิตภัณฑ์อีคอมเมิร์ซ พวกเขามีแม้แต่เครื่องมือสร้างโลโก้และตัวเลือกในการเพิ่มรหัสที่กำหนดเอง (ด้วยแผนราคาแพงกว่า) นี่อาจเป็นปัญหาใหญ่ หากคุณไม่รู้ภาษาอื่นหรือไม่สะดวกที่จะใช้โปรแกรมแก้ไขในภาษาอื่น เมื่อคุณเลือกบล็อกเนื้อหาของคุณแล้ว คุณสามารถลากองค์ประกอบไปรอบ ๆ เพื่อวางไว้ในที่ที่คุณต้องการได้ แต่มันมีขีดจำกัด คุณไม่สามารถอะไรตรงไหนก็ได้ที่ต้องการเพราะ Squarespace ต้องการให้ทุกอย่างดูดีและเหมาะกับอุปกรณ์เคลื่อนที่ แต่สำหรับคนที่ต้องการเน้นในความสวยงามของเว็บไซต์ นี่อาจเป็นข้อดีมากกว่าข้อเสีย: คุณอาจจะไม่สามารถปรับแต่งตามความคิดสร้างสรรค์ได้เต็มที่ แต่อย่างน้อยมันก็ป้องกันไม่ให้คุณทำความผิดพลาดเมื่อออกแบบได้3. แอพพลิเคชั่น ปลั๊กอินและส่วนเสริม
Squarespace มีตัวเลือกที่ดีที่สุด (มีข้อจำกัด)
ทั้ง Squarespace และ GoDaddy ต่างก็ไม่มีตลาดแอพพลิเคชั่นของตัวเอง – ฟีเจอร์ต่าง ๆ มีอยู่แล้วในตัว คุณจึงไม่ต้องมองหาบริการจากบุคคลที่สาม แต่นี่ยังหมายความว่าคุณจะสูญเสียระดับความสามารถในการปรับแต่งที่คุณได้รับจากเครื่องมือสร้างเว็บเช่น Wix หรือ WordPress ที่นำเสนอแอพพลิเคชั่นและปลั๊กอินมากมาย อย่างไรก็ตามในการต่อสู้ระหว่าง GoDaddy และ Squarespace นั้น Squarespace เฉือนเอาชนะไปด้วยด้วยปริมาณและคุณภาพที่มากกว่าของการผสานรวมแอพพลิเคชั่นต่าง ๆ ที่มีให้ในตัว GoDaddy มีบริการเสริมจำนวนจำกัด ที่สามารถช่วยปรับปรุงฟังก์ชันการทำงานของไซต์ของคุณ ได้แก่:- การจองร้านอาหาร
- สั่งอาหารออนไลน์
- รายชื่ออสังหาริมทรัพย์
- โพสต์ธุรกิจ Instagram
- รีวิว
- Google Maps
- OpenTable
- SoundCloud
- YouTube
- Vimeo
- Apple Pay
- PayPal
- และอื่น ๆ อีกมากมาย
4. อีคอมเมิร์ซ
พวกเขามีฟีเจอร์อีคอมเมิร์ซที่คล้ายกัน แต่ Squarespace มี Edge
ทั้ง GoDaddy และ Squarespace มีฟีเจอร์อีคอมเมิร์ซที่คล้ายกัน (แม้ว่าจะใช้ได้เฉพาะในแผน GoDaddy ที่แพงที่สุด) ได้แก่:- การรักษาความปลอดภัย SSL
- รองรับ PayPal, Stripe และ Square เป็นตัวประมวลผลการชำระเงิน
- แสดงสินค้าได้ไม่จำกัด
- การแจ้งเตือนรถเข็นที่ถูกละทิ้ง
- การขายผลิตภัณฑ์ดิจิทัลและทางกายภาพ
5. SEO
มีฟีเจอร์พื้นฐานที่ครบถ้วน
แน่นอนว่าคุณไม่ได้แค่สร้างเว็บไซต์เพื่อความสนุกเท่านั้น คุณต้องการทำให้ธุรกิจหรือบล็อกของคุณหรืออะไรก็ตามประสบความสำเร็จ นี่แหละคือสิ่งที่เครื่องมือ SEO เป็นประโยชน์ ทั้ง Squarespace และ GoDaddy มีฟีเจอร์ SEO พื้นฐานที่คล้ายกัน ที่ช่วยให้เว็บไซต์ของคุณสามารถถูกค้นหาได้ง่ายขึ้นผ่าน Google และเครื่องมือค้นหาอื่น ๆ (แม้ว่าเครื่องมือเหล่านี้จะมีให้เฉพาะในแผน GoDaddy ที่แพงกว่าเท่านั้น) ด้วยเครื่องมือสร้างเว็บเหล่านี้ คุณสามารถ:- แก้ไขชื่อและคำอธิบายเมตา
- เปลี่ยน URL slugs
- เพิ่มข้อความแสดงแทนรูปภาพ
- การสนับสนุนคีย์เวิร์ด
- ใช้ธีมที่ตอบสนองต่ออุปกรณ์เคลื่อนที่
6. ราคา
Squarespace คุ้มค่ากับต้นทุนเพิ่มเติมหรือเปล่า
มีแค่ GoDaddy ที่นำเสนอแผนฟรี อย่างไรก็ตาม Squarespace นำเสนอบัญชีทดลองใช้งานฟรี และการกำหนดราคาของพวกเขานั้นค่อนข้างยุติธรรม เมื่อพิจารณาจากคุณภาพของสิ่งที่นำเสนอ แผนของ Squarespace ทั้งหมดมาพร้อมกับ:- โดเมนที่กำหนดเองฟรี
- แบนด์วิดท์และพื้นที่การจัดเก็บไม่จำกัด
- ฟีเจอร์ SEO
- เทมเพลตไม่จำกัด
- การสนับสนุนตลอด 24 ชั่วโมงทุกวัน
GoDaddy นำเสนอแผนการสมัครสมาชิกแบบชำระเงินที่แตกต่างกัน 4 แบบ: สามแบบสำหรับเว็บไซต์ส่วนบุคคลหรือธุรกิจทั่วไปและอีกแผนสำหรับร้านค้าออนไลน์ แผนทั้งหมดมาพร้อมกับ:
- การรักษาความปลอดภัย SSL
- โดเมนที่กำหนดเองฟรี
- การแก้ไขในทุกอุปกรณ์
- การสนับสนุนตลอด 24/7
แม้ว่าแผนขั้นพื้นฐานของ GoDaddy จะมีราคาถูกกว่าแผน Squarespace Personal มาก แต่ในความคิดของฉัน ฟังก์ชันเพิ่มเติมที่คุณได้รับจาก Squarespace นั้นคุ้มค่ากับค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม
แผนส่วนตัวของSquarespace | แผนอีคอมเมิร์ซพื้นฐานของ Squarespace | แผนขั้นพื้นฐานของ GoDaddy | แผนอีคอมเมิร์ซของ GoDaddy | |
โดเมนฟรี | มี | มี | มี | มี |
แบนด์วิดท์ | ไม่จำกัด | ไม่จำกัด | ไม่ได้ระบุไว้ | ไม่ได้ระบุไว้ |
พื้นที่จัดเก็บ | ไม่จำกัด | ไม่จำกัด | ไม่ได้ระบุไว้ | ไม่ได้ระบุไว้ |
เครื่องมือ SEO | มี | มี | ไม่มี | มี |
การวิเคราะห์ | เมตริกพื้นฐานของเว็บไซต์ | เมตริกเว็บไซต์พื้นฐานและการวิเคราะห์เว็บไซต์ขั้นสูง | ข้อมูลเชิงลึกของ GoDaddy | ข้อมูลเชิงลึกของ GoDaddy |
การสนับสนุน | การสนับสนุนตลอด 24/7 | การสนับสนุนตลอด 24/7 | การสนับสนุนตลอด 24/7 | การสนับสนุนตลอด 24/7 |
แสดงสินค้าได้ไม่จำกัด | ไม่มี | มี | ไม่มี | มี |
บัตรของขวัญ | ไม่มี | มี | ไม่มี | มี |
7. การสนับสนุน
การสนับสนุนการสนับสนุนทางโทรศัพท์ของ GoDaddy นั้นมีคุณภาพพอ ๆ กับระบบตั๋วของ Squarespace
GoDaddy ให้การสนับสนุนลูกค้าตลอด 24/7 ทางโทรศัพท์และตัวเลือกไลฟ์แชทใน วันจันทร์ – ศุกร์ 9am – 9pm AEDT (ประมาณตี 5 – 5 โมงเย็นในประเทศไทย) นอกจากนี้ยังมีศูนย์ช่วยเหลือที่ครอบคลุม ซึ่งมีบล็อก คำถามที่พบบ่อย ฟอรัม คอมมูิตี้และส่วนคำแนะนำที่ครอบคลุมที่เต็มไปด้วยวิดีโอคำแนะนำ ทุกแผนมีการสนับสนุนทุกประเภทนำเสนออยู่ ฉันที่ไม่ชอบคุยทางโทรศัพท์เท่าไหร่ แต่ฉันต้องการทดสอบบริการของพวกเขา ฉันจึงพยายามโทรหาฝ่ายสนับสนุนของ GoDaddy ฉันรอประมาณห้านาที ก่อนจะได้เจอเจ้าหน้าที่ที่เป็นมิตรและสามารถช่วยตอบคำถามทั้งหมดของฉันได้อย่างอดทนและละเอียดถี่ถ้วน สำหรับตัวเลือกไลฟ์แชท ฉันได้รับแจ้งว่าต้องรอถึง 22 นาที แต่ฉันรอเพียงแค่ไม่กี่นาทีก็ได้คุบกับพนักงาน – แต่พวกเขาใช้เวลาไม่น้อยในการตอบคำถามของฉัน Squarespace ให้การสนับสนุนตลอด 24 ชั่วโมงทุกวันผ่านระบบตั๋ว อีเมลและฟอรัมคอมมูนิตี้นอกจากนี้ยังมีบริการไลฟ์แชทในวันจันทร์ – ศุกร์ระหว่าง 4 โมงเย็น – 8 โมงเช้า (ในประเทศไทย) นอกจากนี้ยังมีฟอรัมที่คุณสามารถรับคำแนะนำจากผู้ใช้ Squarespace คนอื่น ๆ ได้อีกด้วย ฟังก์ชันการช่วยเหลือของ Squarespace เริ่มต้นด้วยการขอให้คุณเลือกปัญหาจากรายการ นี่เป็นสิ่งที่น่ารำคาญเล็กน้อย เนื่องจากฉันต้องการถามเกี่ยวกับความเป็นไปได้ในการเปลี่ยนเว็บไซต์ Squarespace เป็น WordPress ในอนาคต ซึ่งมันไม่ได้อยู่ภายใต้หมวดหมู่ใด ๆ ที่กำหนดและไม่มี “อื่น ๆ” ให้เลือก ในที่สุดฉันก็ตัดสินใจคลิกไปที่เมนูที่พวกเขามีและนั่งรอ หลังจากนั้นประมาณสิบนาที Kean W. ก็เข้ามาในแชทและตอบคำถามของฉันโดยหาบทความที่มีประโยชน์ให้แก่ฉัน และเมื่อฉันส่งตั๋วไปที่ Squarespace ด้วยคำถามที่คล้ายกัน ฉันได้รับคำตอบทางอีเมลในเวลาเพียงเก้านาทีต่อมา ซึ่งมันเป็นเรื่องที่ค่อนข้างแปลกจากประสบการณ์ของฉัน โดยรวมแล้วพวกเขาให้บริการได้อย่างสูสี แต่ฉันจะโหวตให้ Squarespace เนื่องจากฉันไม่ต้องใช้เวลารอนานสรุป: ถูกกว่าไม่ได้หมายความดีกว่า
โดยรวมแล้วฉันไม่แน่ใจว่า GoDaddy สามารถให้บริการได้ดีพอ ๆ กับบริการที่พวกเขาต้องการเลียนแบบ มันอาจเป็นตัวเลือกที่ถูกกว่า Squarespace แต่มันมีตัวเลือกการออกแบบที่จำกัด การทำงานร่วมกับบริการอื่นในตัวได้น้อยกว่าและมีฟีเจอร์อีคอมเมิร์ซที่จำกัด หากคุณไม่ต้องการส่วนเสริมเพิ่มเติมสำหรับเว็บไซต์ของคุณ ยกตัวอย่างเช่นหากคุณต้องการสร้างบล็อกหรือเว็บไซต์ส่วนตัว ฉันขอเลือก GoDaddy เนื่องจากมันใช้งานได้ง่าย – แถมยังมี แผนบริการฟรี! แต่ถ้าคุณต้องการความคุ้มค่าที่มากกว่า การบริการลูกค้าแบบทันใจและแบบเว็บไซต์ที่ทันสมัยและสวยงาม Squarespace นั้นเหนือกว่าGoDaddy
Squarespace
การทดลองใช้ฟรี
30 วัน
14 วัน
เทมเพลต
เทมเพลตมากกว่า 300 จำกัดการปรับแต่ง
เทมเพลตที่ออกแบบมาอย่างสวยงาม 80 แบบ ตัวเลือกการปรับแต่งที่ไร้ขีดจำกัด
ฟีเจอร์และความง่ายต่อการใช้งาน
เครื่องมือแก้ไขแบบชี้แล้วคลิกที่เรียบง่าย มีฟีเจอร์พื้นฐานที่มากกว่า
ต้องใช้เวลาเรียนรู้ แต่มีฟังก์ชันพิเศษ
แอพพลิเคชั่นส่วนเสริมและการผสานรวม
ไม่มีตลาดแอพพลิเคชั่น มีตัวเลือกการผสานรวมจากบุคคลที่สามจำนวนจำกัด
ไม่มีตลาดแอพพลิเคชั่น มีตัวเลือกการผสานรวมจากบุคคลที่สามที่มากกว่า
ราคา
แผนราคาสี่ระดับ
แผนราคาสี่ระดับ
การสนับสนุน
การสนับสนุนลูกค้าตลอด 24 ชั่วโมงทุกวันทางโทรศัพท์และไลฟแชท
การสนับสนุนลูกค้าตลอด 24 ชั่วโมงทุกวันผ่านระบบตั๋ว/อีเมลและไลฟ์แชท
อีคอมเมิร์ซ
ใช้ได้เฉพาะในแผนราคาแพงที่สุด
ฟีเจอร์อีคอมเมิร์ซที่ทรงพลังมากมาย
SEO
เครื่องมือพื้นฐาน
เครื่องมือพื้นฐานและรายการตรวจสอบที่เป็นประโยชน์
UI ในภาษาไทย
ไม่มี
ไม่มี