พวกเราจัดอันดับผู้ให้บริการตามการทดสอบและค้นคว้าอย่างเข้มงวด แต่ก็จะมีการคำนึงถึงความคิดเห็นของคุณและข้อตกลงเชิงพาณิชย์ของเรากับผู้ให้บริการด้วย หน้านี้มีลิงก์ affiliate การเปิดเผยข้อมูลการโฆษณา
  1. Website Planet
  2. >
  3. บล็อก
  4. >
  5. 6 โปรแกรม Project Management ฟรี ที่ดีที่สุดปี 2024

6 โปรแกรม Project Management ฟรี ที่ดีที่สุดปี 2024

เอนเดร กาเนม ถูกเขียนขึ้นโดย:
Christine Hoang รีวิวโดย: Christine Hoang
29 สิงหาคม 2024
ไม่ว่าคุณจะเป็น ผู้จัดการทีมขนาดเล็ก, จะเป็นมืออาชีพที่มีเวลาจำกัด หรือจะเป็นนักเรียนที่ต้องการความเป็นระเบียบมากกว่าเดิม โปรแกรม project management ที่เหมาะสมจะสามารถช่วยเพิ่มประสิทธิภาพให้คุณได้เป็นอย่างสูง น่าเสียดายมากที่ปัญหาหลักก็คือ โปรแกรม project management นั้นมักจะมีราคาแพง ไม่ใช่ทุกคนที่จะสามารถซื้อมาใช้งานได้

โชคยังดีที่มีโปรแกรม project management ฟรีให้เลือกใช้ได้อยู่ ก็หมดปัญหาแล้วใช่ไหม? เลือกมาสักตัวแล้วก็ไปเริ่มทำงานกันได้เลย ก็ไม่เชิงว่าจะจบแค่นั้นเพราะตัวที่คุณเลือกมันก็ควรจะต้อง…ดีด้วย

น่าเสียดายที่ผลิตภัณฑ์ในแพลนระดับฟรีส่วนใหญ่นั้นจะมีฟีเจอร์ที่คุณภาพต่ำกว่ามาตรฐาน การจะเลือกมาสักตัวก็เป็นเรื่องยากด้วย เนื่องจากมันดูเหมือน ๆ กันไปหมด – ถ้าดูไปที่ฟีเจอร์ของมัน เพราะแบบนั้น เราจึงได้ทำการทดสอบโปรแกรม project management ฟรี ด้วยตัวเอง และก็ค้นพบ 6 ตัวเลือกที่ดีที่สุด

โดยรวมแล้ว ตัวเลือกอันดับหนึ่งสำหรับเราคือ monday.com แพลนระดับฟรีของมันนั้นจะเปิดให้ใช้งานได้เพียงแค่สองคน แต่คุณจะสามารถจัดการโครงการได้เกือบทุกรูปแบบเพราะมันมีเทมเพลตให้เลือกถึง 200+ แบบ คุณจะยังสามารถสร้างเอกสารข้อความอย่างง่ายภายในโครงการของคุณได้ด้วย – เหมาะสำหรับใช้จดบันทึกเวลาที่คุณทำงาน

ไม่ค่อยมีเวลาใช่ไหม? นี่คือโปรแกรม project management ฟรี ที่ดีที่สุดในปี 2024

  1. monday.com1 – เครื่องมือสำหรับองค์กรที่มีความครอบคลุมสำหรับผู้ใช้งานหนึ่งถึงสองคน
  2. ClickUp1 – ไม่จำกัดจำนวนผู้ใช้งานและจำนวนงาน สามารถใช้งานได้แม้ว่าจะเป็นโครงการขนาดใหญ่
  3. Smartsheet1 – ฟีเจอร์ project management ขั้นสูงพร้อมมีระยะเวลาให้ทดลองใช้ได้ยาวนาน

สิ่งที่เรามองหาในโปรแกรม project management ฟรี ที่ดีที่สุด

โปรแกรมแต่ละโปรแกรมในรายการนี้นั้นจะถูกปรับแต่งให้เหมาะสมกับผู้ใช้งานแต่ละรูปแบบ ดังนั้นฟีเจอร์ของมันก็จะไม่เหมือนกันซะทั้งหมด ถึงจะเป็นเช่นนั้นก็ตาม มันก็จะต้องมีฟีเจอร์ที่จำเป็นก่อน ถึงจะติดอันดับนี้ได้
  • แพลนระดับฟรีที่มีประโยชน์ แค่โปรแกรมเปิดให้ใช้ฟรีอย่างเดียวนั้นยังไม่พอ คุณจะต้องสามารถจัดการโครงการตั้งแต่ต้นจนจบได้โดยไม่ต้องล้วงไปหยิบเงินในกระเป๋าเลยด้วย
  • ใช้งานง่าย ถ้าจะดีที่สุด คุณควรจะต้องสามารถเริ่มจัดการโครงการของคุณได้ทันทีหลังจากที่คุณสมัครใช้งานเสร็จ ในขณะที่โปรแกรม project management ทุกตัวนั้นต่างก็จะต้องเรียนรู้กันทั้งนั้น แต่ถ้ามันเป็นมิตรต่อผู้ใช้งานมากที่สุดได้ก็ย่อมดีเช่นกัน
  • การแสดงภาพโครงการ การได้มองเห็นโครงการผ่านรูปแบบที่แตกต่างไปจากเดิมจะช่วยให้คุณมีความคิดใหม่ ๆ เกี่ยวกับมันได้ โปรแกรมในรายการนี้จะมีวิธีแสดงภาพโครงการให้คุณเลือกได้อย่างหลากหลาย
  • แดชบอร์ดและการรายงาน คุณอาจจะต้องการมองเห็นภาพรวมของโครงการเป็นครั้งคราว เครื่องมือในรายการนี้นั้นจะมีตัวเลือกแดชบอร์ดและการรายงานที่หลากหลาย สำหรับไว้แสดงข้อมูลของโครงการอย่างชัดเจน
  • เทมเพลตโครงการ เราจะขอพูดซ้ำอีกครั้ง – คุณควรจะต้องสามารถเริ่มโครงการของคุณได้เร็วที่สุด เทมเพลตโครงการนั้นเป็นสิ่งที่ดีมากที่จะช่วยลดภาระงานของคุณ

monday.com Kanban view
monday.com นั้นอาจจะเป็นเครื่องมือที่คุณต้องการสำหรับการจัดการบุคคล
โปรแกรม project management ทั่วไปนั้นมักจะต้องเลือกอย่างได้อย่างหนึ่ง: จะเลือกแบบที่ใช้งานง่ายแต่ขาดความอเนกประสงค์ หรือแบบที่ทรงพลังแต่ก็ซับซ้อนเกินจะใช้งาน เราพูดว่า “มักจะ” ก็เพราะว่า monday.com นั้นมีความแตกต่างออกไป เนื่องจากมันรวมเอาความอเนกประสงค์และความง่ายในการใช้งานเข้าด้วยกันได้ดีกว่าคู่แข่งรายอื่น

อินเทอร์เฟซที่ดูสวยงาม, คู่มือ “เริ่มต้นใช้งาน” ที่หลากหลาย และดีไซน์ที่ดูเข้าใจง่าย ทำให้การเรียนรู้และใช้งานมันนั้นเป็นเรื่องที่ง่ายดายมาก ในขณะเดียวกัน ชนิดของคอลัมน์แบบต่าง ๆ, ฟีเจอร์การรายงาน และการตั้งระบบอัตโนมัติที่เรียบง่ายนั้นทำให้มันมีความยืดหยุ่นอย่างน่าประหลาดใจ

อย่างไรก็ตาม แพลนระดับฟรีนั้นก็จะมาพร้อมกับข้อจำกัด อย่างแรกเลย มันจะจำกัดให้คุณใช้งานได้เต็มที่แค่ 2 ผู้ใช้งาน นอกจากนี้มันยังขาดฟีเจอร์ที่ดีที่สุดในแพลนแบบจ่ายเงินอย่างเช่นไทม์ไลน์และมุมมอง Gantt สำหรับงานที่ใหญ่ขึ้น แพลน Standard นั้นจะเปิดให้ใช้งานได้ไม่จำกัดจำนวนผู้ใช้งาน, เวิร์กโฟลว์อัตโนมัติ และมุมมองไทม์ไลน์

ถึงจะเป็นเช่นนั้น แต่เราก็ยังเห็นว่า monday.com เป็นตัวเลือกฟรีที่ดีที่สุดสำหรับบุคคล1 คุณจะไม่สามารถบริหารธุรกิจด้วยแพลนระดับฟรีได้ แต่ถ้าคุณกำลังมองหาวิธีการจัดการงานของคุณให้ดียิ่งขึ้น monday.com นั้นก็เป็นตัวเลือกที่ดีที่สุด

ฟีเจอร์

  • คอลัมน์ 20+ แบบ ในมุมมองตาราง คุณสามารถเพิ่มคอลัมน์ได้ไม่ว่าจะเป็นข้อความพื้นฐานและคอลัมน์ตัวเลข ไปจนถึงกระทั่งตัวติดตามความคืบหน้าและเมนูแบบดรอปดาวน์
  • แอป Android และ iOS แอปอุปกรณ์เคลื่อนที่นั้นทำให้คุณสามารถอัปเดต, สร้าง หรือลบงานได้ในขณะเดินทาง นี่จะช่วยให้คุณสามารถอัปเดตภาระงานได้จากทุกที่
  • สร้างเอกสารที่ปรับแต่งได้ นอกจากการอัปโหลดไฟล์แบบทั่วไปแล้ว คุณจะสามารถสร้างไฟล์ข้อความอย่างง่ายบน monday.com ได้ด้วย มันอาจจะไม่ได้เป็นโปรแกรมประมวลผลข้อความที่ดูทันสมัยอะไรมากนัก แต่มันก็ถือเป็นเรื่องดีมากที่คุณสามารถแนบข้อมูลเยอะ ๆ ไปยังงานต่าง ๆ ได้อย่างรวดเร็ว
  • ความหลากหลายของเทมเพลต Monday.com นั้นมาพร้อมกับเทมเพลตเฉพาะกว่า 200 แบบ ให้คุณเลือกใช้ได้ในทันที หมวดหมู่นั้นมีตั้งแต่การตลาดและดีไซน์ ไปจนถึงการพัฒนาซอฟต์แวร์และการศึกษา แต่ละเทมเพลตนั้นจะถูกสร้างขึ้นมาอย่างละเอียด เพื่อให้มีฟีเจอร์ทั้งหมดที่คุณน่าจะต้องใช้ตั้งแต่แรก
ลองเข้ามาดู รีวิว monday.com โดยผู้เชี่ยวชาญของเราเพื่ออ่านข้อมูลเพิ่มเติม

ความสะดวกในการใช้งาน ใช้งานง่าย
มุมมองโครงการในแพลนระดับฟรี
  • ตาราง
  • Kanban
เทมเพลตโครงการฟรี 200+
แพลนแบบจ่ายเงินที่ถูกที่สุด $27.00

2. ClickUp: มีสิ่งจำเป็นที่ (เกือบ) ไม่จำกัดสำหรับโครงการขนาดใหญ่ 1

ClickUp's list view
มุมมองแบบลิสต์ของ ClickUp นั้นดูมีสีสันและเข้าใจง่าย – เหมาะสำหรับทีมที่ไม่ค่อยมีเวลา
ไม่ว่าคุณจะเคยใช้โปรแกรมอะไรมาก่อนก็ตาม คุณก็คงจะรู้ดีว่าแพลนระดับฟรีนั้นจะจำกัดสิ่งที่คุณทำได้อยู่เสมอ ดังนั้นคุณก็คงคิดว่าโปรแกรม project management ก็น่าจะจำกัดให้มีผู้ใช้งานได้แค่ไม่กี่รายใช่ไหม? แน่นอนว่าแพลนระดับฟรีส่วนใหญ่จะเป็นแบบนั้น – แต่ไม่ใช่สำหรับ ClickUp ด้วยแพลนระดับฟรีของ ClickUp คุณจะสามารถเพิ่มผู้ใช้งานได้มากเท่าที่คุณต้องการ ไม่ใช่เท่านั้นแต่คุณจะสามารถ เพิ่มจำนวนงานได้อย่างไม่จำกัดอีกด้วย1 ดังนั้นทีมของคุณและขนาดโครงการของคุณจะถูกจำกัดด้วยจินตนาการของคุณ (และธุรกิจของคุณ) เพียงเท่านั้น

คุณสามารถใช้การตั้งค่าอัตโนมัติแบบง่ายในแพลนระดับฟรีได้ด้วย โปรแกรม project management รายอื่น ๆ นั้นมักจะล็อกการตั้งค่าอัตโนมัติไว้ให้ใช้งานได้ในเฉพาะแพลนแบบจ่ายเงิน – ซึ่งก็เข้าใจได้ แต่นั่นก็จะไม่เหมาะกับคุณถ้าคุณต้องทำงานซ้ำ ๆ อยู่เป็นประจำ คุณจะได้แค่ 100 action/เดือน แต่ก็ดีกว่าไม่ได้อะไรเลย

ถึงแม้ว่าเราจะคุยไว้เยอะเกี่ยวกับความใจกว้างของ ClickUp แต่มันก็มีข้อจำกัดอยู่เหมือนกัน คุณจะสามารถสร้างได้เพียงแค่ 5 Space (โครงการ) ในเวลาเดียวกัน และพื้นที่จัดเก็บของคุณก็จะจำกัดอยู่ที่ 100MB มันก็พอใช้งาน แต่ทีมที่มีขนาดใหญ่ซึ่งต้องรองรับหลาย ๆ โครงการก็อาจจะจำเป็นต้องอัปเกรดไปใช้แพลนแบบจ่ายเงินแทน โชคยังดีที่แพลนแบบจ่ายเงินของ ClickUp นั้นเป็นหนึ่งในแพลนที่มีราคาถูกที่สุดและก็คุ้มค่ากับเงินที่จ่ายไปเป็นอย่างสูง

ฟีเจอร์

  • 500+ เทมเพลต การสร้างโครงการใหม่นั้นเป็นเรื่องง่ายมากเพราะว่า ClickUp มีเทมเพลตให้เลือกหลายร้อยแบบ นอกจากที่มันจะมีตัวเลือกสำหรับทุกกรณีการใช้งานแล้ว มันยังมีคู่มือสำหรับผู้ใช้งานเพื่อช่วยให้คุณเริ่มต้นอีกด้วย
  • การทำงานร่วมกันแบบเรียลไทม์ เพิ่มวิดเจ็ตสำหรับใช้แชทไปยังแดชบอร์ดของคุณเพื่อใช้แชทงานในจุดกลาง คุณยังสามารถแก้ไขเอกสารพร้อมกันได้ รวมถึงเขียนลงในมุมมองไวท์บอร์ดแบบเรียลไทม์ ทำให้การระดมความคิดกับทีมของคุณเป็นเรื่องง่าย
  • เครื่องมือจับเวลาติดมาในตัว คุณสามารถจับเวลาได้ว่าแต่ละงานใช้เวลาเท่าไร โดยสามารถทำได้ในแต่ละงานหรือข้าง ๆ แต่ละงานในมุมมองแบบลิสต์ ดังนั้นมันจะง่ายต่อการติดตามว่าคุณใช้เวลาไปกับอะไรบ้าง
  • การใช้งานร่วมกับระบบอื่น ClickUp นั้นสามารถใช้งานร่วมกับระบบอื่น ๆ ได้มากกว่า 50+ ระบบ ซึ่งรวมถึง Slack, GitHub หรือแม้แต่ Figma คุณสามารถใช้ ClickApps (ส่วนขยาย) ได้ไม่จำกัดจำนวน เพื่อที่จะปรับแต่งพื้นที่ทำงานได้ตามที่คุณต้องการ
ความสะดวกในการใช้งาน ปานกลาง
มุมมองโครงการในแพลนระดับฟรี
  • ลิสต์
  • บอร์ด
  • ปฏิทิน
  • ตาราง
  • Gantt (100 ครั้ง/เดือน)
  • แมพ (100 ครั้ง/เดือน)
  • มายแมพ (100 ครั้ง/เดือน)
  • ไทม์ไลน์ (100 ครั้ง/เดือน)
  • ภาระงาน (100 ครั้ง/เดือน)
เทมเพลตโครงการฟรี 500+
แพลนแบบจ่ายเงินที่ถูกที่สุด $7.00

Smartsheet Asser Management Dashboard
เวลาทดลองใช้ 30 วัน นั้นเพียงพอสำหรับใช้จัดการโครงการที่มีความซับซ้อนด้วย Smartsheet
เดี๋ยว เดี๋ยว วางไม้ลงก่อน…เรารู้ว่า Smartsheet ถ้าพูดกันทางเทคนิคแล้ว มันไม่มีแพลนระดับฟรี อย่างไรก็ตาม สิ่งที่มันมีให้ก็คือ การทดลองใช้ฟรี 30 วัน1 โดยจะเข้าถึงฟีเจอร์พรีเมียมได้ทั้งหมด ด้วยความยืดหยุ่นของ Smartsheet นั่นจึงเป็นเวลาที่มากเพียงพอสำหรับใช้จัดการโครงการระยะสั้น

จุดแข็งของ Smartsheet ก็คือสเปรดชีตที่มันเรียกว่า “grid (ตาราง)” นี่เป็นสิ่งที่มีความยืดหยุ่นเป็นอย่างมากสำหรับใช้จัดระเบียบและดูโครงการของคุณ ขึ้นกับชนิดของคอลัมน์ที่คุณจัดไว้บน grid คุณจะสามารถเปลี่ยนให้มันเป็น kanban board, Gantt chart หรือมุมมองปฏิทินได้อย่างรวดเร็ว

ถ้าคุณกำลังทำโครงการขนาดใหญ่ที่มีข้อมูลจำนวนมาก Smartsheet ก็มีเครื่องมือทั้งหมดที่คุณต้องการเตรียมไว้ให้แล้ว ยิ่งถ้าคุณเป็นส่วนหนึ่งของทีม มันยิ่งจะใช้งานดีมาก Smartsheet เปิดให้คุณสามารถโพสต์แสดงความเห็นและแท็กสมาชิกในทีมไว้ตรงองค์ประกอบไหนก็ได้ ไม่ว่าจะเป็น grid ใด grid หนึ่งหรือเอกสารทั้งเอกสาร นอกจากนี้ก็ยังมีเครื่องมือตรวจสอบสำหรับทีมที่ทำงานโครงการที่เกี่ยวกับวิดีโอด้วย

Smartsheet นั้นต้องใช้เวลาเรียนรู้เล็กน้อย ดังนั้นก็เป็นไปได้ที่คุณอาจจะทำทุกอย่างไม่เสร็จภายในช่วงเวลาทดลองใช้ 30 วัน หากคุณกำลังต้องการจัดการโครงการที่มีขนาดใหญ่ขึ้น และมีระยะเวลายาวนานขึ้น เราแนะนำให้คุณลองดูแพลน Pro (ซึ่งมีราคาถูกจนน่าประหลาดใจ) มันอาจจะไม่ฟรี แต่ความที่ Smartsheet นั้นมีความอเนกประสงค์มากก็ทำให้มันคุ้มค่าที่จะลองใช้งานดู

ฟีเจอร์

  • การรายงานที่ทรงพลัง รายงานบน Smartsheet นั้นจะเป็น grid พิเศษที่เปิดให้คุณสามารถแสดงและเปลี่ยนข้อมูลเฉพาะจากเอกสารต่าง ๆ ได้ นี่จะทำให้คุณสามารถใส่ข้อมูลจากตารางอื่น หรือแม้แต่รายงานอื่นได้ การเปลี่ยนแปลงที่ทำลงในรายงานก็จะเปลี่ยนไปยังต้นทางโดยอัตโนมัติ รวมถึงในทางกลับกันด้วย
  • แดชบอร์ดแบบปรับแต่งได้ แดชบอร์ดนั้นจะเป็นการนำข้อมูลโครงการของคุณมาแสดงให้เห็นภาพอีกที คุณสามารถสร้างแดชบอร์ดกี่อันก็ได้ตามที่คุณต้องการ และก็สามารถปรับแต่งองค์ประกอบของมันได้ ไม่ว่าจะเป็นข้อมูลที่คุณต้องการแสดงไปจนกระทั่งวิธีการที่คุณต้องการจะแสดง
  • เครื่องมือตรวจสอบขั้นสูง สมาชิกในทีมจะสามารถเพิ่มความเห็นและจดบันทึกลงในไฟล์บน Smartsheet ได้โดยตรง สำหรับไฟล์วิดีโอ บันทึกเหล่านี้สามารถใส่เวลาที่ต้องการให้แสดงได้ด้วย
  • เวิร์กโฟลว์อัตโนมัติ เวิร์กโฟลว์สามารถทำได้ทุกอย่างไม่ว่าจะเป็นการอัปเดตข้อมูลบน grid ไปจนถึงส่งการแจ้งเตือนแบบปรับแต่งได้ ไปจนกระทั่งการเปลี่ยนไทม์ไลน์ของโครงการ ที่ดีที่สุด คุณก็สามารถสร้างและแก้ไขเวิร์กโฟลว์ได้ด้วยโปรแกรมที่ใช้งานง่าย – ไม่จำเป็นต้องไปยุ่งอะไรกับสูตรที่มีความซับซ้อนเลย
เข้ามาดู รีวิว Smartsheet จากผู้เชี่ยวชาญของเรา เพื่ออ่านข้อมูลเพิ่มเติม

ความสะดวกในการใช้งาน เข้าถึงได้สำหรับทุกคน แต่ต้องเรียนรู้ในระดับหนึ่ง
มุมมองโครงการในแพลนระดับฟรี
  • Grid
  • Gantt
  • Kanban
  • ปฏิทิน
เทมเพลตโครงการฟรี สูงสุดถึง 350+ เทมเพลต และ

130+ ชุดเทมเพลต (ขึ้นกับพื้นที่)
แดชบอร์ดมีภาษาไทย ใช่
แพลนแบบจ่ายเงินที่ถูกที่สุด $7.00

4. Jira: แพลนระดับฟรีที่ใจกว้างมาก ๆ เพราะสำหรับหน่วยงาน1

Jira's List view
พื้นที่ทำงานที่ปรับแต่งได้อย่างเต็มรูปแบบของ Jira นั้นทำให้คุณสามารถสร้างโซลูชันที่เหมาะกับสไตล์การทำงานของคุณได้
แพลนระดับฟรีนั้นจะจำกัดไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง ไม่ว่าจะเป็นการเปิดให้ใช้ฟังก์ชันได้เยอะ ๆ แต่จำกัดให้ใช้ได้แค่ไม่กี่ผู้ใช้งาน หรือจะจำกัดฟังก์ชันแต่เปิดให้ใช้งานได้หลายผู้ใช้งาน สำหรับทีมส่วนใหญ่แล้วก็เป็นเรื่องที่ยอมรับได้ แต่ไม่ใช่สำหรับหน่วยงาน – เป็นการขอที่มากเกินไปหรือยังไงที่อยากจะได้สิ่งที่ดีที่สุดจากทั้งสองฝั่ง สำหรับ Jira แล้ว ไม่มากเกินไปเลย Jira Work Management มีแพลนระดับฟรีที่ใจกว้างมาก เปิดให้ใช้งานได้สูงถึง 10 ผู้ใช้งาน และก็ยังไม่จำกัดจำนวนโครงการเลยอีกด้วย คุณสามารถติดตามงานได้ไม่จำกัดในแต่ละโครงการอีกด้วย

ยิ่งไปกว่านั้น แพลนระดับฟรีของ Jira Confluence ก็จะครอบคลุมจำนวนผู้ใช้งานเทียบเท่ากันพร้อมให้ใช้งานพื้นที่และหน้าได้ไม่จำกัด ดังนั้นคุณสามารถขยายการใช้งานแพลนระดับฟรีของ Jira เพื่อให้ได้ฟีเจอร์ฟรีมากยิ่งขึ้นไปอีก มันเป็นโซลูชันที่สมบูรณ์แบบสำหรับหน่วยงาน เนื่องจากมันจะช่วยเก็บเอกสาร, บันทึก และการแก้ไขทั้งหมดไว้ในจุดศูนย์กลางเพียงที่เดียว

ถึงจะเป็นเช่นนั้นแต่มันก็ไม่ได้ดีไปซะทั้งหมด ในแพลนระดับฟรีคุณจะสามารถเข้าถึงได้เฉพาะชุมชนของ Jira และการช่วยเหลือแบบบริการตนเองเท่านั้น ถึงมันจะทำไว้ดีแค่ไหน แต่มันก็ไม่มีทางดีเท่ากับการได้รับความช่วยเหลือจากคนจริง ๆ การอัปเกรดไปแพลนแบบจ่ายเงินนั้นก็ไม่ถูกเลย แต่ถ้ามองว่ามันมีราคาเทียบเท่ากับแพลนระดับกลางของเครื่องมืออื่น ๆ มันก็ไม่ได้แพงมากเกินไปเช่นกัน

ฟีเจอร์

  • การตั้งค่าอัตโนมัติไม่จำกัด แพลนระดับฟรีของ Jira นั้นจะครอบคลุมการตั้งค่าอัตโนมัติในโครงการเดี่ยวอย่างไม่จำกัดจำนวน ซึ่งช่วยประหยัดเวลาให้คุณจากงานแอดมินได้ หากคุณต้องการตั้งค่าอัตโนมัติให้กับงานระหว่างหลายโครงการ คุณก็จะมีสิทธิ์ใช้งานได้ 100 ครั้งต่อเดือน
  • โฮมเพจผู้ใช้งาน ไม่พลาดงานที่ถูกมอบหมายอีกต่อไปด้วยหน้าโฮมเพจผู้ใช้งานของ Jira โฮมเพจของคุณจะแสดงให้คุณเห็นงานที่คุณได้รับมอบหมาย, กิจกรรมล่าสุดในโครงการของคุณและอื่น ๆ แถมคุณยังสามารถตั้งค่าแดชบอร์ดที่ปรับแต่งได้เพื่อช่วยให้คุณสามารถติดตามโครงการเฉพาะได้อีกด้วย
  • การแก้ไขแบบเรียลไทม์ หากคุณใช้งาน Jira Confluence คุณก็สามารถแก้ไขเอกสารไปพร้อมกับทีมของคุณได้เลยแบบเรียลไทม์ เอกสารแต่ละฉบับนั้นจะมีประวัติเวอร์ชันอย่างละเอียด ทำให้คุณสามารถย้อนกลับไปเวอร์ชันก่อนได้ถ้าต้องการ
  • พื้นที่จัดเก็บไฟล์ 2GB คุณจะได้รับพื้นที่ที่มากพอในแพลนระดับฟรี หรือคุณจะเลือกอัปเกรดไปใช้แพลนแบบจ่ายเงินเพื่อขยายพื้นที่เป็น 250GB เลยก็ได้ ต้องการเพิ่มอีกใช่ไหม? คุณสามารถใช้งาน Jira กับบริการพื้นที่จัดเก็บบนคลาวด์อย่าง Dropbox หรือ OneDrive ได้ด้วย
ความสะดวกในการใช้งาน ง่ายมาก ๆ
มุมมองโครงการในแพลนระดับฟรี
  • บอร์ด
  • ลิสต์
  • ปฏิทิน
  • ไทม์ไลน์
  • ปัญหา
เทมเพลตโครงการฟรี 500+
แพลนแบบจ่ายเงินที่ถูกที่สุด $7.75

TeamWork Table View
อินเทอร์เฟซที่ดูน่าใช้งานของ Teamwork ทำให้ project management กลายเป็นเรื่องที่ไม่น่ากลัวอย่างที่คิด
หากคุณเป็นผู้ใช้งานเริ่มต้น โปรแกรม project management อาจจะดูน่ากลัว ไม่ว่าจะเป็นฟีเจอร์เฉพาะขั้นสูง, คำศัพท์ที่ไม่คุ้นเคย และอินเทอร์เฟซผู้ใช้งานที่มักจะดูซับซ้อนจนเกินไป สิ่งต่าง ๆ เหล่านี้อาจจะทำให้ว่าที่ผู้จัดการโครงการต่างก็ต้องเกาศีรษะกันได้ทั้งนั้น Teamwork นั้นกำจัดเรื่องพวกนี้ออกไปทั้งหมด แล้วเปลี่ยนมาให้คุณได้ใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีดีไซน์แบบที่ดูเข้าใจง่ายแทน

นี่ไม่ได้หมายความว่ามันมีฟีเจอร์น้อยแต่อย่างไร Teamwork นั้นมีทุกอย่างที่คุณต้องการสำหรับการเริ่มโครงการแรกของคุณ นอกจากการจัดการงานแล้ว คุณจะยังสามารถสร้างใบแจ้งหนี้, ติดตามเวลา และแบ่งปันไฟล์ได้สูงสุดถึง 100MB คุณยังสามารถเปลี่ยนสีและธีมของอินเทอร์เฟซของคุณได้ด้วย

หากคุณกำลังต้องการจะอัปเกรด คุณก็ไม่จำเป็นต้องเลือกแพลนที่มีราคาแพงที่สุด แม้แต่แพลนที่ถูกที่สุดที่ชื่อ Deliver นั้นก็เปิดให้ใช้งานอย่างไม่จำกัดจำนวนผู้ใช้งานแล้ว นี่หมายความว่าถ้าคุณไม่ต้องการฟีเจอร์เสริมอะไรมากมาย คุณก็สามารถบริหารจัดการทีมขนาดกลางได้ในราคาเพียง $5.99 ต่อเดือน

ฟีเจอร์

  • เครื่องมือจับเวลาติดมาในตัว จับเวลาที่คุณและเพื่อนร่วมทีมของคุณใช้ในการทำงานต่าง ๆ
  • การสร้างใบแจ้งหนี้พื้นฐาน Teamwork นั้นเป็นหนึ่งในตัวเลือกไม่กี่รายที่เปิดให้คุณสร้างใบแจ้งหนี้พื้นฐานในแพลนระดับฟรีได้
  • งานย่อยและส่วนต่อ บางครั้งคุณอาจจะต้องการความเฉพาะมากกว่าการมอบหมายงาน ด้วยการเพิ่มงานย่อยและส่วนต่อ คุณจะสามารถควบคุมการทำงานได้มากกว่าต้องการให้อะไรเสร็จ และให้ทำยังไง
  • แดชบอร์ดพื้นฐาน Teamwork นั้นไม่มีแดชบอร์ดขั้นสูง แต่มันก็ยังช่วยให้คุณสามารถดูข้อมูลสำคัญแบบย่อยได้อย่างรวดเร็วอยู่
อ่าน รีวิว Teamwork จากผู้เชี่ยวชาญของเรา เพื่อดูข้อมูลเพิ่มเติม

ความสะดวกในการใช้งาน ง่ายมาก ๆ
มุมมองโครงการในแพลนระดับฟรี
  • ลิสต์
  • Kanban
  • ปฏิทิน
  • Gantt
เทมเพลตโครงการฟรี ไม่
แดชบอร์ดมีภาษาไทย ใช่
แพลนแบบจ่ายเงินที่ถูกที่สุด $5.99

6. Zoho Projects: การประสานงานอย่างเต็มรูปแบบสำหรับทีมขนาดเล็ก1

Zoho Projects Gantt chart
Zoho Projects นั้นเหมาะมากสำหรับทีมงานที่ทำงานระยะไกลซึ่งต้องอาศัยการสื่อสารที่มีความคล่องตัว
ถ้าทีมงานของคุณใช้งานบริการของ Zoho อยู่แล้ว Projects ก็เป็นก้าวถัดไปที่สมเหตุสมผล แต่นั่นก็ไม่ใช่เหตุผลเดียวที่ควรใช้มัน Projects นั้นจะจัดการเรื่องการสื่อสารภายในทีมได้ดีอย่างไม่น่าเชื่อ

หากคุณกำลังทำงานที่ต้องเน้นความละเอียด Zoho Projects ก็จะช่วยให้แน่ใจได้ว่าคุณและทีมของคุณนั้นจะเข้าใจตรงกันอยู่เสมอด้วยตัวติดตามปัญหา, ระบบส่งข้อความในตัว และฟีดสด

ตัวจัดการงานนั้นก็น่าประทับใจมากด้วย คุณสามารถเพิ่มความเห็นและอัปโหลดไฟล์ลงในงานต่าง ๆ ได้, สามารถตั้งค่าความสำคัญ และระบุเปอร์เซ็นต์ที่งานแล้วเสร็จได้ และถ้าคุณต้องการจะดูภาพรวมของผลงานโครงการ แดชบอร์ดโครงการก็จะทำให้คุณมองเห็นข้อมูลที่เกี่ยวข้องทั้งหมดอย่างเร็วได้ เช่น งานที่เกินกำหนด, สถานะปัญหา และแผนภูมิความคืบหน้า

พูดมาถึงตรงนี้คุณก็น่าจะพอเดาได้ว่าแพลนระดับฟรีของมันนั้นจะมีข้อจำกัดอยู่ คุณสามารถเพิ่มผู้ใช้งานได้สูงสุดแค่ 3 ผู้ใช้งาน และก็สามารถใช้ทำโครงการได้แค่ 2 โครงการ ในเวลาเดียวกัน นอกจากนี้มันก็ยังมีพื้นที่จัดเก็บข้อมูลเพียงแค่ 10MB ซึ่งน้อยมาก ๆ หากคุณกำลังบริหารจัดการทีมขนาดใหญ่ คุณก็อาจจะสนใจ ลงทุนเลือกใช้แพลนระดับพรีเมียมของ Zoho Project แทน

ฟีเจอร์

  • ส่วนต่องานขั้นสูง Zoho Projects เปิดให้คุณตั้งค่าส่วนต่องานได้ 4 รูปแบบที่แตกต่างกันไป เมื่อไรก็ตามที่คุณตั้งค่าส่วนต่อ มันก็จะเคลื่อนย้ายงานในไทม์ไลน์โดยอัตโนมัติเพื่อหลีกเลี่ยงกรณีที่งานมีความที่ขัดแย้งกัน
  • ตัวติดตามปัญหาในงาน คุณสามารถเชื่อมโยงปัญหาเข้ากับงานได้ด้วยการใช้ตัวติดตามปัญหาของโครงการ คุณจะสามารถตั้งค่าความรุนแรงของปัญหาได้อย่างยืดหยุ่น, สามารถมอบหมายมันให้กับผู้ใช้งาน และอัปโหลดวิธีการแก้ไขที่กำหนดเองได้ เมื่อคุณเชื่อมโยงปัญหาไว้กับไมล์สโตนที่ได้รับผลกระทบ คุณก็จะสามารถตั้งค่าไมล์สโตนนั้นว่าเสร็จสิ้นแล้วได้เฉพาะเมื่อปัญหานั้นได้รับการแก้ไขเท่านั้น
  • ฟีดโครงการที่ปรับแต่งได้ ฟีเจอร์ฟีดจะทำให้คุณสามารถเริ่มบทสนทนาและพูดคุยในบทสนทนาได้ เหมือนกับเป็นฟีดบนโซเชียลมีเดียทั่วไป ด้วยฟีเจอร์ง่าย ๆ นี้เอง มันสามารถช่วยให้การสื่อสารภายในโครงการของคุณนั้นเป็นแบบเปิดและมีความลื่นไหลอย่างเป็นอิสระ
  • รายงานขั้นพื้นฐาน Projects มีตัวเลือกรายงานขั้นพื้นฐานให้คุณเลือกใช้ รายงานเหล่านี้จะแสดงแผนภูมิวงกลมอย่างง่ายซึ่งจะสรุปสถานะต่าง ๆ, ความคืบหน้าไมล์สโตน, ความสำคัญ, ความสำเร็จของงาน, เจ้าของ และแท็กในงานทั้งหมดของคุณ
อ่านรีวิว Zoho Projects จากผู้เชี่ยวชาญของเรา เพื่อดูข้อมูลเพิ่มเติม

ความสะดวกในการใช้งาน ค่อนข้างง่าย
มุมมองโครงการในแพลนระดับฟรี
  • ลิสต์
  • Kanban
  • Gantt
  • ปฏิทิน
เทมเพลตโครงการฟรี ไม่
แดชบอร์ดมีภาษาไทย ใช่
แพลนแบบจ่ายเงินที่ถูกที่สุด $4.00

คุณภาพนั้นไม่จำเป็นต้องมากับคำว่าพรีเมียมเสมอไป

โปรแกรม project management ที่มีคุณภาพนั้นสามารถช่วยให้คุณเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานขึ้นไปอีกขั้นหนึ่งได้ และตอนนี้คุณก็ได้รู้แล้วว่าคุณไม่จำเป็นต้องจ่ายเงินเยอะ ๆ – หรือจริง ๆ ก็อาจจะไม่ต้องจ่ายอะไรเลย – เพื่อให้ได้มันมาใช้งาน มันมีโปรแกรม project management ฟรี คุณภาพดีมากมายที่จะช่วยให้คุณเพิ่มประสิทธิภาพให้กับองค์ของคุณได้ในทันที

หากคุณไม่ได้ต้องการที่จะบริหารจัดการทีมงาน อย่างน้อย monday.com ก็สามารถช่วยให้คุณบริหารจัดการตารางเวลาของตัวเองได้1

ถ้าคุณต้องการจัดการโครงการที่มีขนาดใหญ่ แพลนระดับฟรีของ ClickUp ก็เปิดให้คุณสร้างงานได้ไม่จำกัด1 พร้อมผู้ใช้งานอย่างไม่จำกัดอีกด้วย

และสุดท้ายถ้าคุณกำลังบริหารจัดการโครงการขนาดใหญ่ที่มีความซับซ้อนและมีกำหนดเวลาที่เร่งด่วน Smartsheet นั้นก็จะมีฟีเจอร์ที่ทรงพลังที่สุดสำหรับคุณ1ในรายการนี้ – ถึงแม้ว่าคุณจะต้องเรียนรู้วิธีใช้งานมันหน่อยก็ตาม

ลองดูตารางเปรียบเทียบของเราเพื่อดูว่าโปรแกรมไหนที่เหมาะสำหรับคุณ
แพลนระดับฟรี ฟีเจอร์ที่ดีที่สุด เหมาะที่สุดสำหรับ แดชบอร์ดมีภาษาไทย ราคาเริ่มต้น
monday.com มีความสมดุลดีระหว่างความสะดวกในการใช้งานและความยืดหยุ่น บุคคลที่ต้องการเครื่องมือจัดระเบียบงานที่ทรงพลัง $27.00
ClickUp สร้างงานได้ไม่จำกัด และก็ไม่จำกัดจำนวนผู้ใช้งาน ทีมขนาดใหญ่ที่ทำงานโครงการขนาดใหญ่ $7.00
Smartsheet สเปรดชีตที่ทรงพลังและมีความละเอียดอย่างน่าเหลือเชื่อ ทีมที่ทำงานโครงการที่มีความซับซ้อน $7.00
Jira ทีมที่ไม่จำกัดสูงสุดทีมละ 10 ผู้ใช้งาน หน่วยงานที่ต้องทำงานหลายโครงการไปพร้อม ๆ กัน $7.75
Teamwork แทบจะไม่ต้องเรียนรู้เลย เป็นโซลูชันที่มีความอเนกประสงค์ในหน้าตาที่ดูเหมาะกับผู้เริ่มต้น $5.99
Zoho Projects ใช้งานร่วมกับระบบนิเวศของ Zoho ได้ ผู้ใช้งาน Zoho และทีมงานระยะไกลขนาดเล็ก $4.00

คำถามที่พบบ่อย

โปรแกรม project management คืออะไร?

ถ้าให้พูดให้เข้าใจได้ง่ายที่สุด โปรแกรม project management จะช่วยให้ทีมงานสามารถบริหารจัดการ ไทม์ไลน์, ภาระงาน และองค์ประกอบอื่น ๆ ของโครงการ โปรแกรม project management ส่วนใหญ่จะทำให้คุณสามารถมอบหมายงาน, ตั้งค่าวันแล้วเสร็จ และสื่อสารกับสมาชิกในทีมได้

นอกจากนี้ก็จะขึ้นกับเครื่องมือที่คุณเลือกใช้งาน คุณก็อาจจะสามารถสร้างใบแจ้งหนี้, สร้างส่วนต่อระหว่างงาน และกรอกข้อมูลอัตโนมัติได้.

โปรแกรม project management ฟรี ที่ดีที่สุดคือโปรแกรมอะไร?

คำถามนี้จะไม่มีคำตอบที่ถูกต้องแบบคำตอบเดียว มันมีตัวเลือก โปรแกรม project management ฟรี มากมาย (ตัวที่ไม่ดีก็มีมากมายเช่นกัน) และคำตอบของคำถามนั้นก็จะขึ้นกับความต้องการของคุณเป็นหลัก

ถ้าคุณแค่ต้องการอะไรบางอย่างที่จะช่วยให้คุณสามารถจัดการโครงการส่วนตัวให้ดีขึ้น เราก็แนะนำ monday.com แพลนระดับฟรีของมันนั้นมีชุดฟีเจอร์ที่ครบครันมากที่สุด และอินเทอร์เฟซของมันก็เป็นมิตรต่อผู้ใช้งานเป็นอย่างมาก

ฉันต้องใช้โปรแกรม project management หรือไม่?

ถ้าถามเรา มันก็แล้วแต่สำหรับตัวบุคคลและทีมงานขนาดเล็ก สำหรับบางคนและบางทีม โปรแกรม project management อาจจะช่วยพัฒนาประสิทธิภาพการทำงาน, การบริหารเวลา และการสื่อสารได้เป็นอย่างสูง สำหรับคนอื่น ๆ มันอาจจะทำให้เวิร์กโฟลว์ซับซ้อนยิ่งขึ้นไปอีก

สำหรับทีมจากระยะไกลและทีมขนาดใหญ่ – และโดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ที่ทำงานโครงการที่มีความซับซ้อน – โปรแกรม project management นั้นเป็นสิ่งที่จำเป็นอย่างมาก อย่างน้อยมันก็จะช่วยไม่ให้พลาดรายละเอียดที่มีความสำคัญ และป้องกันการสื่อสารที่ล้มเหลว

ฉันจะเลือกโปรแกรม project management ที่เหมาะสมได้อย่างไร?

ในตอนที่คุณเลือกโปรแกรม project management คุณจะต้องคำนึงถึงความต้องการของคุณและทีมงานของคุณ ทำงานจากระยะไกลใช่ไหม? คุณก็จะต้องใช้ตัวเลือกการสื่อสารที่ใช้งานได้ดี มีงบประมาณจำกัดใช่ไหม? มันมีตัวเลือก โปรแกรม project management ฟรี ที่ใช้งานได้ดีอยู่มากมายที่จะสามารถช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของคุณได้ รวมถึงฟีเจอร์ระดับพรีเมียมที่อาจจะคุ้มค่ากับเงินที่ต้องจ่าย

หากคุณต้องการดูตัวเลือกอย่างละเอียด คุณสามารถดูได้จากรายการ โปรแกรม project management ที่ดีที่สุดในปี 2024

อ่านบทความนี้
4.7 ได้รับการโหวตให้คะแนนโดย 3 ผู้ใช้
คุณลงคะแนนแล้ว! ย้อนกลับ
ต้องระบุข้อมูลในฟิลด์นี้ Maximal length of comment is equal 80000 chars ความยาวน้อยที่สุดของความคิดเห็นเท่ากับ 10 ตัวอักษร
มีความคิดเห็นอย่างไร
ตอบกลับ
ดูการตอบกลับของ %s
View %s reply
เราตรวจสอบความคิดเห็นของผู้ใช้ทั้งหมดภายใน 48 ชั่วโมงเพื่อให้แน่ใจว่ามาจากผู้ใช้จริงเช่นคุณ เราดีใจที่คุณพบว่าบทความนี้มีประโยชน์ - เราจะขอบคุณถ้าคุณแบ่งปันให้คนอื่นรู้เกี่ยวกับมัน
Popup final window
แบ่งปันโพสต์บล็อกนี้กับเพื่อนและเพื่อนร่วมงานในตอนนี้:

We check all comments within 48 hours to make sure they're from real users like you. In the meantime, you can share your comment with others to let more people know what you think.

คุณจะได้รับเคล็ดลับและคำแนะนำที่น่าสนใจฬในเชิงลึกเพื่อปรับปรุงประสิทธิภาพเว็บไซต์ของคุณและบรรลุเป้าหมายการตลาดดิจิทัลของคุณ!

เราดีใจมากที่คุณ ��อบ

แบ่งปันให้กับเพื่อนของคุณ!

1 1 1

หรือรีวิวพวกเราได้บน 1

3401169
50
5000
44109802
เครื่องมือจัดการโปรเจคอันดับ #11image

ติดตามโปรเจคของคุณได้ฟรี

เริ่มต้นไปกับ monday.com ได้อย่างง่ายดาย!