- สร้างเว็บไซต์ได้ฟรี
- ใช้เครื่องมือสร้างแบบพรีเมี่ยม
- บริการโฮสต์เว็บ WordPress ของตัวเอง
- จ้างเว็บดีไซน์เนอร์ มืออาชีพ
- เว็บไซต์ของคุณจะแสดงโฆษณาของเครื่องมือสร้างเว็บไซต์
- คุณไม่สามารถใช้โดเมนที่กำหนดเองได้ (ดังนั้นคุณจะต้องใช้ชื่ออย่างเช่น “blogofchampions.wixsite.com”)
- คุณจะไม่ได้รับพื้นที่เก็บข้อมูลและแบนด์วิดท์ที่มากพอ
- คุณต้องการทดสอบเครื่องมือสร้างเว็บไซต์โดยเฉพาะ
- คุณต้องการโฮสต์เว็บไซต์ส่วนตัวขนาดเล็ก
- คุณต้องการแสดงผลงานของคุณทางออนไลน์
- คุณต้องการสร้างเว็บไซต์เพื่อแบ่งปันภาพถ่ายครอบครัว
- คุณกำลังรวบรวม RSVP สำหรับงานแต่งงานของคุณ (หรืองานอื่น ๆ )
1. Wix – แผนฟรี (และมีประโยชน์) ที่น่าดึงดูดที่สุด
แผนบริการฟรีของ Wix นั้นใจกว้างอย่างมาก คุณสามารถเข้าถึงฟีเจอร์ทั้งหมดของเครื่องมือสร้างนี้ (มีข้อยกเว้นบางประการ เช่น อีคอมเมิร์ซ) คุณจะได้รับพื้นที่เก็บข้อมูลและแบนด์วิดท์ 500 MB ซึ่งมากเกินพอที่จะสร้างเว็บไซต์เริ่มต้นที่ดีและยังสามารถเข้าถึงเทมเพลตอีกกว่า 900 แบบที่ออกแบบมาอย่างสวยงามของ Wixที่คุณสามารถปรับแต่งเนื้อหาตามใจชอบได้โดยใช้เครื่องมือแก้ไขแบบลากและวาง แผนบริการฟรียังให้คุณสามารถเข้าถึงWix App Market ซึ่งมีส่วนเสริมหลายร้อยตัวเลือกที่ช่วยขยายฟังก์ชันการทำงานของเว็บไซต์ของคุณได้ บางบริการต้องเสียเงิน แต่หลายบริการที่ได้รับความนิยมนั้นสามารถใช้งานได้ฟรี คุณยังจะได้รับเครื่องมือทางการตลาดในตัวที่แข็งแกร่งอีกด้วย ตัวอย่างเช่น Wix Email Marketing ในแผนบริการฟรีให้คุณสามารถส่งอีเมลได้มากถึง 5,000 ฉบับใน 3 แคมเปญต่อเดือน นี่เป็นสิ่งที่ดีหากคุณจัดทำจดหมายข่าวหรืออัปเดตเป็นประจำสำหรับสมาชิกของคุณ คุณไม่สามารถเชื่อมต่อโดเมนที่กำหนดเองได้และคุณจะมีแบนเนอร์จาก Wix ปรากฎอยู่ที่ด้านบนสุดของเว็บไซต์ของคุณ แต่ถ้าเทียบแต่ละแบรนด์แล้ว โฆษณาของ Wix นั้นถือว่าไม่โจ่งแจ้งมากนัก2. SITE123 – ดีที่สุดในด้านความเรียบง่าย
SITE123 นั้นใช้งานได้ง่ายกว่า Wix – มันเป็นบริการสำหรับผู้ที่ต้องการสร้างเว็บไซต์อย่างรวดเร็ว มากกว่าการใช้ความสร้างสรรค์อย่างเต็มรูปแบบ ดังนั้นบริการนี้จะเป็นตัวเลือกอันดับต้น ๆ ของฉันหากคุณไม่ต้องการเว็บไซต์ที่ซับซ้อนและต้องการออนไลน์อย่างรวดเร็ว จริง ๆ แล้วมันใช้งานได้ง่ายมาก ๆ และ แผนบริการฟรีของ SITE123 นั้นมีดีในหลาย ๆ ด้านพื้นที่เก็บข้อมูลและแบนด์วิดท์ 250 MB, เทมเพลต SITE123 ทั้งหมดมากกว่า180+ แบบ, ฟีเจอร์บล็อก, แบบฟอร์มติดต่อและบริจาคและเครื่องมือทางธุรกิจบางอย่าง เช่น ปฏิทินกิจกรรม การจองร้านอาหารและการกำหนดเวลานัดหมาย แต่ว่าแผนบริการฟรีจำกัดประเภทการแก้ไขที่คุณทำกับเว็บไซต์ของคุณได้ ตัวเลือกการปรับแต่งขั้นสูงเพิ่มเติม เช่น จานสีแบบกำหนดเอง ฟอนต์และแอปถูกสงวนไว้สำหรับแผนแบบชำระเงิน ในความคิดของฉันแบนเนอร์ของ SITE123 นั้นโดดเด่นกว่าเล็กน้อย แต่สำหรับเว็บไซต์ส่วนตัวธรรมดา ๆ ฉันคิดว่ามันใช้งานได้ดีพอสมควร3. WordPress.com – แผนฟรีที่ดีที่สุดสำหรับบล็อก
WordPress.com นำเสนอขุมพลังทั้งหมดของ WordPress.org แต่มาในแพ็คเกจโซลูชันที่รวมการโฮสติ้ง การบำรุงรักษาและความปลอดภัยเอาไว้ในที่เดียว ซอฟต์แวร์ที่มีรากฐานมาจากการเขียนบล็อก WordPress.com นั้นเป็นสิ่งที่ดีที่สุดเมื่อพูดถึงฟีเจอร์บล็อก และโชคดีที่ฟีเจอร์ส่วนใหญ่มีให้ใช้อยู่ในแผนฟรี คุณจะได้รับพื้นที่เก็บข้อมูลขนาด 3 GB และแบนด์วิดท์ไม่จำกัด ซึ่งทำให้ WordPress.com เป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับเว็บไซต์ที่เน้นด้านสื่อ ซึ่งมีรูปภาพจำนวนมาก คุณยังได้รับฟีเจอร์พิเศษ เช่น ความปลอดภัย, การสำรองข้อมูลอัตโนมัติ, เครื่องมือ SEO, แกลเลอรี่, สไลด์โชว์และแบบฟอร์มการติดต่อผ่านปลั๊กอิน Jetpack ข้อเสียก็คือ แผนบริการฟรีมีข้อจำกัดที่สำคัญบางประการอย่างการที่คุณไม่สามารถเข้าถึงไลบรารีปลั๊กอินของ WordPress ได้หรือคุณสามารถเข้าถึงแค่คอมมูนิตี้ฟอรัมเพื่อขอความช่วยเหลือและมีตัวเลือก ธีมฟรี เพียงเล็กน้อยเท่านั้น นอกจากนี้ WordPress.com ยังไม่เหมือนกับเครื่องมือสร้างรายอื่น ๆ ตรงที่ต้องใช้เวลาในการเรียนรู้ที่ค่อนข้างนาน4. GoDaddy – ฟีเจอร์ฟรีที่ดีที่สุดสำหรับธุรกิจขนาดเล็ก
แต่ฉันขอชี้แจงก่อนนะว่า GoDaddy นั้นไม่ได้นำเสนอ บริการฟรี ในทุกที่ ในขณะนี้บริการฟรีมีให้บริการเฉพาะในสหรัฐอเมริกาและภูมิภาคอื่นๆ ไม่กี่แห่ง แต่ถ้ามีให้บริการในที่ที่คุณอยู่ ก็ถือว่าโชคดีไป แพ็คเกจแผนฟรีของ GoDaddy รวมฟีเจอร์ที่ยอดเยี่ยมมากมายเอาไว้สำหรับธุรกิจขนาดเล็ก รวมถึงเครื่องมือสร้างที่สนุกและใช้งานง่าย, เครื่องมือสร้างบล็อกและการตลาดขั้นพื้นฐาน, การวิเคราะห์เว็บไซต์และการสนับสนุนลูกค้าทุกวันตลอด 24 ชั่วโมง GoDaddy ยังให้คุณสามารถกำหนดเวลาการนัดหมายแบบครั้งเดียวและรับการชำระเงินผ่าน PayPal ได้อีกด้วย นี่เป็นสิ่งที่ดีถ้าคุณดำเนินธุรกิจบริการและต้องการให้ลูกค้าสามารถจองการนัดหมายกับคุณได้โดยตรงผ่านเว็บไซต์ของคุณ ข้อเสียก็คือ GoDaddy ไม่ได้ให้อิสระในการสร้างสรรค์มากเท่ากับเครื่องมือสร้างรายอื่น และแน่นอนว่าเว็บของคุณจะแสดงแบนเนอร์ของ GoDaddy ที่แสดงอยู่ด้านบนสุดของเว็บไซต์ของคุณ5. Square Online – เครื่องมือสร้างฟรีที่ดีที่สุดสำหรับอีคอมเมิร์ซ
Square Online เป็นหนึ่งในเครื่องมือสร้างเว็บไซต์ไม่กี่รายที่นำเสนอฟีเจอร์อีคอมเมิร์ซที่ใช้งานได้จริง ๆ ใน แผนบริการฟรี (ขณะนี้มีให้บริการแค่ในสหรัฐอเมริกา, แคนาดา, ญี่ปุ่น, ออสเตรเลียและสหราชอาณาจักรเท่านั้น) ฟีเจอร์อีคอมเมิร์ซของแผนฟรีนั้นใช้งานได้ดีพอสมควร คุณสามารถเพิ่มสินค้าได้ไม่จำกัด, การจัดการสินค้าคงคลัง, คูปอง, ความสามารถในการส่งข้อความแจ้งเตือนไปยังลูกค้า, บัตรของขวัญ, แบบฟอร์มการติดต่อและการรวม Instagram ที่ช่วยให้คุณสามารถทำการขายได้โดยตรงผ่านโซเชียลมีเดีย ที่ดีไปกว่านั้นก็คือ ไม่มีแบนเนอร์ “นี่คือเว็บไซต์ฟรี” ในเว็บไซต์ – มีเพียงโลโก้ของ Square เล็ก ๆ ในด้านล่างของเว็บไซต์ของคุณ อย่างไรก็ตามมันไม่ใช่แผนฟรีเสียทีเดียว คุณไม่ต้องใช้เงินเพื่อสร้างและเผยแพร่ไซต์ของคุณ แต่เมื่อคุณทำการขายคุณจะต้องจ่ายค่าธรรมเนียมการทำธุรกรรม 2.9% บวก 30¢ ยังไงก็ต้องลงทุนเพื่อทำธุรกิจอยู่แล้วใช่ไหมล่ะ เพื่อลดค่าธรรมเนียมการทำธุรกรรมเหล่านี้ คุณจะต้องอัปเกรดเป็นแผนพรีเมียมระดับสูงสุด (ซึ่งอยู่ที่ $72.00 ต่อเดือน ซึ่งถือว่าเป็นการลงทุนที่เยอะพอสมควร) ยังไม่แน่ใจว่าแผนบริการฟรีแบบใดที่เหมาะกับความต้องการของคุณมากที่สุดหรือเปล่า ดูการเปรียบเทียบนี้:Wix | SITE123 | WordPress.com | GoDaddy | Square Online | |
แบนด์วิดท์ | 500 MB | 250 MB | ไม่จำกัด | ไม่จำกัด | ไม่จำกัด |
พื้นที่จัดเก็บ | 500 MB | 250 MB | 3 GB | ไม่จำกัด | ไม่จำกัด |
เทมเพลต | 900+ | 180+ | 110+ | 25+ | 1 |
แอปพลิเคชั่น / ส่วนเสริม / การผสานรวม | ✔ | ✘ | ✘ | ✘ | ✔ |
การนัดหมาย | ✔ | ✔ | ✘ | ✔ | ✔ |
ฟีเจอร์อีคอมเมิร์ซ | ✘ | ✘ | ✘ | มีข้อจำกัด | ✔ |
อินเตอร์เฟสผู้ใช้ในภาษาไทย | มี | ไม่มี | แค่บางส่วน | มี | ไม่มี |
จำนวนสินค้า | ราคา |
ราคาค่าบริการ | $3 – $30 ต่อเดือน |
โดเมนเว็บไซต์ | $0 – $15 ต่อปี (โดยปกติปีแรกจะรวมอยู่ในแผนของคุณ) |
การโฮสต์เว็บไซต์ | $0 (รวมถึงแผนบริการของคุณ) |
ใบรับรอง SSL | $0 (รวมถึงแผนบริการของคุณ) |
เทมเพลต/ธีมของเว็บไซต์ | $0 (ตัวเลือกที่ปรับแต่งได้มากมายรวมอยู่ในแผนของคุณ) |
ส่วนเสริม / ปลั๊กอิน | $0 – $100+ ต่อเดือน |
อีเมล์ที่ปรับแต่งได้ | $1 – $15 ต่อเดือน |
รวม | $4 – $150 ต่อเดือน |
1. Wix – คุ้มค่าที่สุด (และให้อิสระในการสร้างสรรค์มากที่สุด)
แผนบริการฟรี ของ Wix ให้คุณเข้าถึงไลบรารีเทมเพลตขนาดใหญ่ของเครื่องมือสร้าง, App Market และเครื่องมือแก้ไขที่ให้คุณสามารถปรับแต่งเว็บไซต์ของคุณได้ในทุกด้าน นั่นหมายความว่าคุณสามารถสร้างเว็บไซต์ที่ดูเป็นมืออาชีพได้ด้วยแผนบริการฟรี แผน Combo ระดับเริ่มต้นนำเสนอเว็บไซต์ที่ดูดีทั้งจากมือสมัครเล่นและมืออาชีพ (ในราคาประมาณ $17.00 ต่อเดือน) แต่แผนนี้เพียงแค่ลบโฆษณาทั้งหมดและให้คุณใช้ชื่อโดเมนที่กำหนดเองได้ (ฟรีหนึ่งปี) นอกจากนี้ไม่ว่าคุณจะใช้แผนอะไร Wix App Market ให้อิสระแก่คุณในการจ่ายเงินเฉพาะส่วนเสริมที่คุณต้องการเท่านั้น– และอย่างที่ฉันได้บอกไปก่อนหน้านี้ว่า แอปจำนวนมากนั้นสามารถใช้งานได้ฟรี อย่างไรก็ตามมีเครื่องมือจำนวนหนึ่งที่คุณสามารถหาซื้อได้ถูกกว่าจากที่อื่น ตัวอย่างเช่น แอป Wix Bookings ราคาเริ่มต้นที่ประมาณ 17 เหรียญต่อเดือน ในขณะที่ GoDaddy, SITE123 หรือ Square Online ก็มีเครื่องมือที่คล้าย ๆ กัน (ใช้งานได้ง่ายกว่า)แต่มีราคาถูกกว่ามาก และหากคุณต้องการรับการชำระเงินออนไลน์ คุณจะต้องอัปเกรดเป็นแผน Business Basic แต่แม้ว่าคุณจะเลือกใช้แผน Wix ที่แพงที่สุด คุณก็ยังได้รับความคุ้มค่ามากมาย มันมีฟีเจอร์มากมายรวมอยู่ในแผนบริการด้วย (โดยเฉพาะเทมเพลตเฉพาะที่สวยงามและเฉพาะเจาะจงสำหรับธุรกิจประเภทต่าง ๆ) คุณจะไม่ผิดหวังกับเครื่องมือสร้างนี้ประหยัดสูงสุด 50 % เมื่อซื้อบริการกับ Wix!
สมัครใช้บริการแผนรายปีและเพลิดเพลินไปกับส่วนลดต่าง ๆ
และรับชื่อโดเมนแบบกำหนดเองฟรีเป็นเวลา 1 ปี!
2. Squarespace – ดีที่สุดสำหรับเว็บไซต์ที่มีรูปภาพมากมาย
ราคาอยู่ที่ $16.00 ต่อเดือน แผน Personal ของ Squarespace ให้พื้นที่เก็บข้อมูลและแบนด์วิดท์ไม่จำกัด ซึ่งหมายความว่าเว็บไซต์ของคุณจะสามารถอัปโหลดรูปภาพหรือวิดีโอจำนวนเท่าใดก็ตามที่คุณต้องการ มีเพียง Hostinger Website Builder เท่านั้นที่นำเสนอฟีเจอร์จำนวนมากในราคาที่น้อยลงและมีเครื่องมือแก้ไขที่ใช้งานได้ง่ายกว่ามาก Squarespace ขึ้นชื่อในด้านดีไซน์ที่สวยงาม เครื่องมือสร้างนี้จึงเป็นตัวเลือกที่เหมาะสมสำหรับคนที่ต้องการสร้างเว็บไซต์ที่เน้นภาพ เช่น พอร์ตโฟลิโอหรือบล็อกเกี่ยวกับดีไซน์ เมื่อเทียบกับ Wix แล้ว ตัวเลือกส่วนขยายของ Squarespace สำหรับสิ่งต่าง ๆ อย่างการทำบัญชี, การจัดการสินค้าคงคลังและ SEO ดูเหมือนจะมีข้อจำกัดเล็กน้อยในแผนนี้ แต่ถ้าคุณอัปเกรดเป็นแผนราคาสูงสุดแผนถัดไป (ราคา $23.00 ต่อเดือน) คุณสามารถเข้าถึงตัวเลือกการผสานรวมและบล็อกเนื้อหาระดับพรีเมียม, สามารถใช้อีเมลที่กำหนดเองจาก Google และใช้เครื่องมืออีคอมเมิร์ซได้ ในราคาเพิ่มเพียงไม่กี่ดอลลาร์ต่อเดือนประหยัดมากถึง 36 % จากแผนการใช้งานของ SquareSpace ได้เลยวันนี้!
แถมยังได้โดเมนฟรีไปใช้หนึ่งปีอีกด้วย!
3. SITE123 – เหมาะสำหรับการสร้างที่รวดเร็วและง่ายดาย
เครื่องมือสร้างเว็บไซต์จำนวนมากพยายามเอาชนะกันในด้านฟีเจอร์, เทมเพลต, ส่วนเสริมและบริการพิเศษ ในทางกลับกัน SITE123 นั้นเน้นในการทำให้บริการนั้นเรียบง่ายและนำเสนอฟีเจอร์ที่ผู้คนต้องการจริง ๆ นั่นเป็นเหตุผลที่ฉันชอบเครื่องมือสร้างนี้ หากฉันแค่เว็บไซต์อย่างรวดเร็วและง่ายดาย โดยปราศจากตัวเลือกการปรับแต่งและเครื่องมือเพิ่มเติมต่าง ๆ ด้วยแผนพรีเมียม (ราคา $12.80 ต่อเดือน) คุณจะได้รับเครื่องมือที่จำเป็นทั้งหมด เช่น ฟรีโดเมนเป็นเวลาหนึ่งปี, ตัวเลือกส่วนเสริมต่าง ๆ (ทั้งแบบฟรีและแบบชำระเงิน) ตัวเลือกเพิ่มเติมต่างๆ เช่น การนัดหมาย, การจองร้านอาหาร, อีเว้นท์, ไลฟ์แชท, การผสานรวมโซเชียลมีเดียและแบบฟอร์มและพื้นที่เก็บข้อมูล 10GB สรุปแล้ว SITE123 สามารถทำทุกอย่างที่คุณต้องการสำหรับเว็บไซต์ที่เรียบง่ายได้ และถ้านั่นคือสิ่งที่คุณต้องการ แล้วจะจ่ายแพงกว่าไปทำไม4. GoDaddy – เหมาะสำหรับเครื่องมือทางธุรกิจ
แผนระดับต่ำสุดของ GoDaddy มีราคาถูกกว่าคู่แข่งส่วนใหญ่เล็กน้อย ที่ $9.99 ต่อเดือน อย่างที่คุณพอจะเดาได้ นั่นหมายถึงข้อจำกัดเพิ่มเติมอีกด้วย ตัวอย่างเช่นคุณสามารถเชื่อมต่อได้เฉพาะโดเมนที่กำหนดเอง ซึ่งหมายความว่าคุณต้องซื้อมันแยกต่างหาก ไม่เหมือนกับเครื่องมือสร้างรายอื่น ๆ โดเมนนี้ไม่รวมอยู่ในแผนของคุณ อย่างไรก็ตามแผนนี้รวมฟีเจอร์ที่น่าสนใจสำหรับธุรกิจซึ่งคุณไม่สามารถหาได้จากที่อื่นในราคาใกล้เคียงกัน เครื่องมือการนัดหมายที่ช่วยให้ลูกค้ากำหนดเวลาการนัดหมายแบบครั้งเดียวบนไซต์ของคุณ, การผสานรวมโซเชียลมีเดียที่ให้คุณกำหนดเวลาโพสต์ได้โดยตรงจากแดชบอร์ด GoDaddy ของคุณและเครื่องมือการตลาดผ่านอีเมลที่ให้การส่งอีเมล์มากถึง 100 ครั้งต่อเดือน เพื่อเปรียบเทียบให้เห็นผ่าน คุณจะได้รับอีเมลฟรีมากกว่าด้วย Wix แต่บริการนั้นไม่มีเครื่องมือการนัดหมาย ดังนั้นหากคุณเป็นผู้ให้บริการ GoDaddy อาจเป็นตัวเลือกที่ดีกว่าสำหรับคุณประหยัดสูงสุดถึง 30 % ในทุกแผนจาก GoDaddy Website Builder !
ข้อเสนอมีเวลาจำกัด - อย่าพลาด!
5. Hostinger Website Builder – เหมาะสำหรับเว็บที่เรียบง่ายที่มีงบประมาณจำกัด
Hostinger Website Builder ไม่ใช่เครื่องมือสร้างเว็บไซต์ที่มีความล้ำหน้าอะไรมากนัก แต่เมื่อเทียบกับสิ่งที่นำเสนอแล้ว ราคาของมันถือว่าถูกมาก ราคาเพียง $3.99 ต่อเดือน แผน Basic นั้นเหมาะสำหรับเว็บไซต์เริ่มต้นได้และในราคาเพิ่มขึ้นเพียง 1 ดอลลาร์แผน Unleashed จะมอบทุกสิ่งที่คุณจำเป็นตัวใช้เพื่อสร้างเว็บไซต์พื้นฐานให้ แน่นอนว่าราคาเหล่านี้เป็นราคาส่วนลด “ที่มีเวลาจำกัด” ของ Hostinger Website Builder ซึ่งออกแบบมาเพื่อดึงดูดผู้ใช้งาน มันมีอายุการใช้งานเพียงสี่ปี จากนั้นจะเปลี่ยนไปใช้ราคาการต่ออายุมาตรฐาน เมื่อสิ่งนั้นเกิดขึ้น คุณจะต้องจ่ายเพิ่มขึ้นถึงสิบเท่า นอกจากชื่อโดเมนฟรี แบนด์วิดท์และพื้นที่เก็บข้อมูลไม่จำกัดแล้ว คุณยังสามารถรับการชำระเงินผ่าน Stripe (แต่ไม่มีรายการผลิตภัณฑ์ หากต้องการทำเช่นนั้นคุณจะต้องใช้แผนอีคอมเมิร์ซราคา $2.99) เพิ่มฟังก์ชันไลฟ์แชทและการผสานรวม Google Analytics และ Facebook Pixel ในแง่ของส่วนเสริม Hostinger Website Builder ไม่ได้มีบริการมากเท่ากับคู่แข่ง แต่ถ้าคุณต้องการเว็บไซต์พื้นฐานในราคาเพียงเล็กน้อย เครื่องมือสร้างนี้เป็นทางออกที่ดีที่สุดของคุณHostinger Website Builder นำเสนอส่วนลดเหลือเพียง $2.69 ต่อเดือน!
รับราคาพิเศษนี้ด้วยโค้ดของเราตอนชำระเงิน - มีเวลาจำกัด!
6. WordPress.com – เหมาะสำหรับการขยับขยาย
WordPress.com เริ่มต้นด้วยแผน Personal ($45.00 ต่อเดือน) ซึ่งมาพร้อมกับโดเมนฟรีสำหรับหนึ่งปี ให้คุณเก็บเงินและให้การสนับสนุนทางอีเมลได้ไม่จำกัด สิ่งนี้จะดีมากหากคุณต้องการโดเมนแบบกำหนดเองที่ใช้เงินจำนวนไม่มากและต้องการใช้ประโยชน์จากฟีเจอร์บล็อกที่เหนือกว่าของ WordPress แต่มันขาดฟีเจอร์ที่สำคัญบางอย่าง เช่น การสำรองข้อมูลเว็บไซต์อัตโนมัติและการเข้าถึงไลบรารีปลั๊กอินขนาดใหญ่ของ WordPress มีให้แผนบริการเฉพาะแผน Business ขึ้นไป ซึ่งมีราคา $25.00 ต่อเดือนขึ้นไป (อย่าลืมว่าคุณสามารถเข้าถึง Wix App Market ได้แม้ในแผนฟรี) ด้วยเหตุผลดังกล่าวฉันขอแนะนำตัวเลือกนี้เฉพาะในกรณีที่คุณต้องการสร้างเว็บไซต์ง่าย ๆ (และเพื่อใช้ทำความเข้าใจวิธีการทำงานของ WordPress) แต่วางแผนที่จะปรับขนาดเว็บไซต์ในภายหลังและต้องการพลังและความยืดหยุ่นที่เหนือชั้นในแผนราคาแพงของ WordPress คุณสามารถอัปเกรดเมื่อเว็บไซต์ของคุณเติบโตขึ้นและคุณต้องการฟีเจอร์เพิ่มเติม และเมื่อคุณเพิ่มปลั๊กอินลงในเว็บไซต์ ก็ไม่มีอะไรที่ WordPress ไม่สามารถทำได้7. Square Online – ดีที่สุดสำหรับร้านค้าออนไลน์ขนาดเล็ก
ดังที่ฉันได้กล่าวไว้ก่อนหน้านี้ Square Online ให้คุณขายผลิตภัณฑ์บน แผนฟรี คุณจะจ่ายเฉพาะเมื่อคุณทำการขาย คุณอาจสงสัยว่าคุณจะได้อะไรจากการอัปเกรดเป็นแผนชำระเงิน ข่าวร้ายก็คือค่าธรรมเนียมการทำธุรกรรมของ Square ยังคงเท่าเดิมที่ 2.9% + 30 ¢ ดังนั้นหากคุณคิดว่า คุณจะทำยอดขายได้จำนวนมาก นี่ไม่ใช่ตัวเลือกที่ดีที่สุดสำหรับคุณ (คำแนะนำ: ดูเครื่องมือสร้างถัดไปในรายการนี้) อย่างไรก็ตาม หากคุณเปิดร้านค้าออนไลน์ขนาดเล็กและรูปแบบธุรกิจและฟีเจอร์ของ Square Online ทำงานได้ดีสำหรับคุณ ฉันคิดว่ามันคุ้มค่าที่จะใช้บริการแบบพรีเมี่ยม แผนชำระเงินจะลบโฆษณาของ Square ออกจากด้านล่างและ URL ของเว็บไซต์ของคุณ ทำให้เว็บไซต์ของคุณไม่ได้เป็นแค่ “งานอดิเรก” แต่เป็น “ร้านค้าออนไลน์ที่ถูกต้องตามกฎหมาย” ทันที สำหรับเครื่องมือเพิ่มเติม เช่น รีวิวจากลูกค้าเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์, ป้ายส่วนลดการจัดส่งและอีเมลรถเข็นที่ถูกทิ้ง คุณอาจต้องการอัปเกรดเป็นแผน Performance ในราคา $26.00 ต่อเดือน8. Shopify – ดีที่สุดสำหรับการขยายร้านค้า
ในราคา $29.00 ต่อเดือน แผนราคาถูกที่สุดของ Shopify มีราคาแพงกว่า Square Online สองเท่าจึงเห็นได่ชัดว่าที่เครื่องมือสร้างนี้เน้นบริการสำหรับร้านค้าออนไลน์ขนาดใหญ่ นอกจากนี้ยังเห็นได้จากฟีเจอร์ของ Shopify ว่านอกเหนือจากฟีเจอร์อีคอมเมิร์ซมาตรฐานแล้ว คุณสามารถตั้งค่าบัญชีพนักงานสองบัญชี, การขายโดยตรงผ่านตลาดกลางและแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียต่าง ๆ และกำหนดสินค้าคงคลังได้ถึงสี่แห่ง คุณยังได้รับอีเมลกู้คืนรถเข็นที่ถูกละทิ้ง ค่าธรรมเนียมการทำธุรกรรมต่ำกว่าของ Square Online ที่ 2.2% + 30¢ ต่อธุรกรรม ดังนั้นตัวเลือกนี้อาจถูกกว่าสำหรับคุณแม้ว่าจะค่าบริการรายเดือนที่สูงกว่าก็ตาม ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับมูลค่าการซื้อขายของคุณทดลองใช้ Shopify ฟรีเป็นเวลา 3 วัน!
ดูว่าเหมาะสำหรับคุณหรือไม่ - ไม่ต้องใช้บัตรเครดิต
Wix Combo | Squarespace Personal | SITE123 Premium | GoDaddy Basic | Hostinger Website Builder Unleashed | WordPress.com Personal | Square Online Professional | Basic Shopify | |
ราคาค่าบริการ | $17.00 | $16.00 | $12.80 | $9.99 | $2.99 | $45.00 | $12.00 | $29.00 |
รวมโดเมนด้วยหรือเปล่า | ฟรี 1 ปี | ฟรี 1 ปี | ฟรี 1 ปี | ✘ | ฟรี 1 ปี | ฟรี 1 ปี | ฟรี 1 ปี | ✘ |
เทมเพลต | ฟรี | ฟรี | ฟรี | ฟรี | ฟรี | ฟรี & มีค่าบริการ | ฟรี | ฟรี & มีค่าบริการ |
แบนด์วิดท์ | 2GB | ไม่จำกัด | 5GB | ไม่จำกัด | ไม่จำกัด | ไม่จำกัด | ไม่จำกัด | ไม่จำกัด |
พื้นที่จัดเก็บ | 3GB | ไม่จำกัด | 10GB | ไม่จำกัด | ไม่จำกัด | 3GB | ไม่จำกัด | ไม่จำกัด |
มี SSL Certificate หรือไม่ | ✔ | ✔ | ✔ | ✔ | ✔ | ✔ | ✔ | ✔ |
มีแอปพลิเคชั่น / ส่วนเสริม / การผสานรวมหรือไม่ | ✔ | ส่วนเสริม Squarespace | ✔ | ✔ | มีข้อจำกัด | ✘ | ✔ | |
มีอีเมล์หรือไม่ | ✘ | ✘ | ✘ | ✘ | ✘ | ✘ | ✘ | ✔ |
มีฟีเจอร์อีคอมเมิร์ซหรือไม่ | ✘ | ✘ | ✘ | ✘ | ✘ | ✘ | ✔ | ✔ |
ค่าธรรมเนียมธุรกรรม | – | – | – | – | – | – | 2.9% + 30¢ | 2.2% + 30¢ |
UI ในภาษาไทย | มี | ไม่มี | ไม่มี | มี | ไม่มี | มีแค่บางส่วน | ไม่มี | มี |
วิธีที่ #3: ใช้WordPress.orgกับโฮสติ้งของคุณเอง
จำนวนสินค้า | ราคา |
ราคาค่าบริการ | $0 |
โดเมนเว็บไซต์ | $9 – $15 ต่อปี |
การโฮสต์เว็บไซต์ | $1.50 – $70 ต่อเดือน |
ใบรับรอง SSL | $0 – $200 ต่อปี (มักจะรวมอยู่ในแพ็คเกจโฮสติ้งฟรี) |
เทมเพลต / ธีมของเว็บไซต์ | ซื้อครั้งเดียว $0 – $250+ |
ปลั๊กอิน | $0 – $100+ ต่อเดือน |
อีเมล์ที่ปรับแต่งได้ | $1 – $15 ต่อเดือน |
รวม | $3 – $185 ต่อเดือน (จ่ายครั้งเดียว +$0 – $250) |
ประหยัดสูงสุด 75 % เมื่อซื้อบริการกับ Hostinger!
ข้อเสนอมีเวลาจำกัด - อย่าพลาด!
จำนวนสินค้า | ราคา |
ค่าออกแบบเว็บไซต์ | จ่ายครั้งเดียว $100 – $1,500 |
ค่าบริการ (หากใช้เครื่องมือสร้างเว็บไซต์) | $0 – $30 ต่อเดือน |
โดเมนเว็บไซต์ | $9 – $15 ต่อปี |
เว็บโฮสติ้ง (หากใช้ WordPress.org) | $1.50 – $70 ต่อเดือน |
ใบรับรอง SSL | $0 – $200 ต่อปี (แต่มักจะรวมให้ฟรีกับแผนโฮสติ้ง/เครื่องมือสร้าง) |
เทมเพลต/ธีมของเว็บไซต์ | ซื้อครั้งเดียว $0 – $250+ |
ปลั๊กอิน | $0 – $100+ ต่อเดือน |
อีเมล์ที่ปรับแต่งได้ | $1 – $15 ต่อเดือน |
รวม | $3 – $200 ต่อเดือน (จ่ายครั้งเดียว +$100 – $1,750) |
คำตอบคือ: คุณต้องการใช้จ่ายเท่าไร
ไม่ว่างบประมาณของคุณจะเป็นอย่างไรและแผนสำหรับเว็บไซต์ของคุณจะเป็นอย่างไร มีตัวเลือกที่เหมาะสำหรับคุณเสมอ ในขณะที่ใช้เครื่องมือสร้างเว็บไซต์อาจเป็นวิธีที่ง่ายที่สุดในการเริ่มต้น – และเป็นวิธีเดียวที่จะทำได้ฟรี WordPress.org ให้ความยืดหยุ่นและความสามารถในการปรับขนาดที่มากขึ้น ถ้าคุณไม่รังเกียจที่จะใช้เรียนรู้การใช้งานด้วยตนเอง และหากคุณเลือกใช้โฮสต์ราคาไม่แพงอย่าง Hostinger คุณก็จะประหยัดเงินได้หลายบาทเช่นกัน หากคุณไม่แน่ใจว่าต้องการใช้เงินกับเว็บไซต์ของคุณดีหรือเปล่า ฉันขอแนะนำแผนบริการฟรีของ Wix บริการนำเสนอฟีเจอร์เยอะแยะมากมาย คุณสามารถทดลองใช้และดูว่าคุณจำเป็นต้องซื้อบริการหรือไม่ อย่างไรก็ตาม ผู้คนจำนวนมากต้องการโดเมนที่กำหนดเอง ซึ่งหมายถึงการใช้เงินซื้อมา คุณสามารถหาตัวเลือกที่โฮสต์เองราคาถูกได้ แต่ถ้าคุณต้องการตัวเลือกราคาประหยัด Hostinger Website Builder นำเสนอแผนราคาประหยัดจำนวนมากสำหรับเว็บไซต์ง่าย ๆ สำหรับเว็บไซต์ที่ต้องการฟีเจอร์มากกว่าที่ Hostinger Website Builder สามารถนำเสนอได้ ฉันเลือกใช้ แผน Wix Combo หรือ แผน Personal ของ Squarespace ทั้งสองบริการนำเสนอส่วนเสริมที่เพียงพอแก่คุณในการสร้างเว็บไซต์ที่มีฟังก์ชั่นต่าง ๆ มากมาย หากคุณต้องการขายสินค้าออนไลน์ เว็บไซต์ WordPress.org ที่โฮสต์เองอาจเป็นวิธีที่ประหยัดงบมากที่สุด แต่คุณต้องมีความรู้ด้านเทคนิคบ้าง มันอาจเป็นเรื่องยากหากคุณไม่มีความรู้ในด้านนี้ ฉันขอแนะนำ Square Online สำหรับร้านค้าขนาดเล็กที่มีผลิตภัณฑ์เพียงไม่กี่รายการและสำหรับร้านค้าขนาดใหญ่ Shopify นั้นเหนือกว่าในด้านฟีเจอร์ และสุดท้ายคุณยังสามารถ จ้างฟรีแลนซ์บน Fiverr เพื่อออกแบบเว็บไซต์ที่มีฟังก์ชันอีคอมเมิร์ซสำหรับคุณ ฉันคิดว่าตัวเลือกนี้เหมาะสมที่สุดหากคุณต้องการสร้างเว็บไซต์เพื่อสร้างรายได้โดยเฉพาะ สำหรับคนอื่น ๆ การลงทุนเวลาและเงินนั้นอาจไม่คุ้มค่า คุณพูดว่าอะไรนะ สรุปบทความทั้งหมดนี้ในตารางงั้นหรอ เราดีใจที่คุณถามแบบนั้น นี่คือการเปรียบเทียบตัวเลือกแบบมีค่าใช้จ่ายในแบบต่าง ๆ:เครื่องมือสร้างเว็บไซต์แบบพรีเมี่ยม | เว็บไซต์ WordPress ที่โฮสต์เอง | นักออกแบบมืออาชีพ | |
การออกแบบเว็บไซต์ | $0 | $0 | จ่ายครั้งเดียว $100 – $1,500 |
ราคาค่าบริการ | $3 – $30 ต่อเดือน | $0 | (หากใช้เครื่องมือสร้างเว็บไซต์) $0 – $30 ต่อเดือน |
โดเมนเว็บไซต์ | $9 – $15 ต่อปี | $9 – $15 ต่อปี | |
การโฮสต์เว็บไซต์ | $0 | $1.50 – $70 ต่อเดือน | (หากใช้ WordPress.org) $1.50 – $70 ต่อเดือน |
ใบรับรอง SSL | $0 | $0 – $200 ต่อปี (แต่มักจะรวมอยู่ในแพ็คเกจโฮสติ้งฟรี) | $0 – $200 ต่อปี (แต่มักจะรวมอยู่ในแพ็คเกจโฮสติ้งและแผนเครื่องมือสร้างฟรี) |
เทมเพลต/ธีมของเว็บไซต์ | ซื้อครั้งเดียว $0 – $250+ | ซื้อครั้งเดียว $0 – $250+ | ซื้อครั้งเดียว $0 – $250+ |
ปลั๊กอิน | $0 – $100+ ต่อเดือน | $0 – $100+ ต่อเดือน | $0 – $100+ ต่อเดือน |
อีเมล์ที่ปรับแต่งได้ | $1 – $15 ต่อเดือน | $1 – $15 ต่อเดือน | $1 – $15 ต่อเดือน |
รวม | $4 – $150 ต่อเดือน จ่ายครั้งเดียว + $0 – $250+ | $3 – $185 ต่อเดือน จ่ายครั้งเดียว + $0 – $250+ | $3 – $200 ต่อเดือน จ่ายครั้งเดียว + $100 – $1,750 |